“อิหร่าน” เมืองแห่งราชาน้ำมันติด Top 3 ของโลก
วินาทีนี้ไม่มีใครไม่ตื่นตัวกับความเคลื่อนไหวระหว่างอิหร่านกับสหรัฐอเมริกา และล่าสุดหลังจากที่อิหร่านตกเป็นที่จับตามองของทุกคนทั่วโลก หลายคนที่ยังไม่เคยรู้จักประเทศนี้ก็ยิ่งหาข้อมูลเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว ที่หากคุณเคยได้ยินว่าทัชมาฮาลเป็นมรดกโลกของอินเดีย ให้ลองนึกภาพว่าอิหร่านมีศาสนสถาน และสถานที่คล้ายกันนี้กว่า 10 แห่ง ทีเดียว มาดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง?
เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ 22 แห่ง ได้แก่
- Armenian Monastic Ensembles of Iran (2008)
- Bam and its Cultural Landscape (2004)
- Bisotun (2006)
- Cultural Landscape of Maymand (2015)
- Golestan Palace (2013)
- Gonbad-e Qābus (2012)
- Historic City of Yazd (2017)
- Masjed-e Jāmé of Isfahan (2012)
- Meidan Emam, Esfahan (1979)
- Pasargadae (2004)
- Persepolis (1979)
- Sassanid Archaeological Landscape of Fars Region (2018)
- Shahr-i Sokhta (2014)
- Sheikh Safi al-din Khānegāh and Shrine Ensemble in Ardabil (2010)
- Shushtar Historical Hydraulic System (2009)
- Soltaniyeh (2005)
- Susa (2015)
- Tabriz Historic Bazaar Complex (2010)
- Takht-e Soleyman (2003)
- Tchogha Zanbil (1979)
- The Persian Garden (2011)
- The Persian Qanat (2016)
มรดกโลกทางธรรมชาติ
- Hyrcanian Forests (2019)
- Lut Desert (2016)
อิหร่านเคยเป็นจักรวรรดิอันดับ 1 ของโลก จริงหรือ?
ประเทศอิหร่านปัจจุบันนี้มีประชากร 80 ล้านคน ถือว่าใกล้เคียงกับประเทศไทย และมีประชากรที่มีความหลากหลายสูง ส่วนใหญ่เป็นชาวเปอร์เซีย ซึ่งเป็นผู้ที่มีรากฐานวัฒนธรรมมาตั้งแต่สมัยอดีตอย่างยาวนาน โดยครั้งหนึ่งเมื่อประมาณ 2,000 กว่าปีที่ผ่านมา จักรวรรดิโรมันไบเซนไทน์ได้รวมกับอาณาจักรดั้งเดิมในอิหร่านเป็นจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ในแง่ของกองทัพ และอารยธรรม
ชาวเปอร์เซีย และรากฐานของเปอร์เซียนั้นยาวนาน เป็นศูนย์ศิลปวิทยาการหลายแขนงที่มนุษย์คิดต้นได้มาตลอดชั่วอายุและส่งทอดกันจากรุ่นสู่รุ่น ดังที่จะเห็นเป็นสูตรการคำนวณต่าง ๆ ที่เรายังใช้กันอยู่ในทุกวันนี้ รวมถึงสินค้าหลากหลายที่หาที่ไหนได้ไม่เหมือนจากเปอร์เซียเฉกเช่นอดีตที่เปอร์เซียเป็นจุดหมายในเส้นทางสายไหม มีการค้าขายกับประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย รวมถึงยุคที่จักรพรรดิแผ่ขยายอาณาจักรไปกว้างขวาง
ผู้ชายอิหร่านมักขึ้นชื่อว่าเป็นชนชาติที่หน้าตาดีที่สุดในโลก เนื่องจากเป็นลูกครึ่งผสมระหว่างเอเชียและชาวแขกขาว มีความคมเข้ม และรูปทรงใบหน้าที่เด่นชัด ผิวสีขาว จนถึงสีเข้ม ซึ่งได้รับการันตี โดยได้ถูกวางบุคลิกเป็นเจ้าชายในนวนิยายขายดีหลายเล่ม ซึ่งหากคุณต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวที่อิหร่าน ต้องวางแผนการเดินทางตามสภาพอากาศ และอย่าลืมไปเยือน Piranshahr city อันเป็นอารยธรรมเก่าแก่ของโลก หรือว่าง่าย ๆ ก็คือชุมชนที่มีการอยู่อาศัยกันมากว่า 8,000 ปีแล้ว
ปัจจุบันอิหร่านมีรายได้จากการส่งออกน้ำมัน และมีแหล่งน้ำมันดิบที่ยังไม่ขุดขึ้นมาอีกเยอะมาก (รองมาจากอิรัก) และได้เคยเปิดบริษัทขุดเจาะน้ำมันโดยร่วมทุนกับพันธมิตรต่างชาติอย่างอังกฤษและสหรัฐอเมริกา แต่ปัจจุบันนี้เกิดปัญหาระหว่างอิหร่านกับสหรัฐอเมริกา ทางอเมริกาแบนวีซ่าชาวอิหร่านและอีกบางประเทศ ดังนั้นหากคุณจำเป็นต้องเดินทางไปยังสองประเทศนี้ต้องติดตามข่าวสารเพื่อความปลอดภัยของท่านเอง และหากเกิดปัญหาขึ้นก็ติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่สถานทูตไทยได้
ที่มาจาก : http://whc.unesco.org/en/statesparties/IR