แลนดิ้งเชียงใหม่ ไม่เอารถไป เที่ยวแบบไหนดี?
ในหน้านี้มีอะไรบ้าง?
พูดถึงเรื่องการท่องเที่ยว แต่กลุ่มนักท่องเที่ยวก็มีประสบการณ์ที่ต้องการได้รับจากสถานที่แปลกใหม่แตกต่างกัน ถึงแม้ว่าบางทีเราจะไปอ่านรีวิวมา แต่เราอาจจะได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีใครเขียนไว้มาก่อน โดยเฉพาะจังหวัด “เชียงใหม่” เมืองเหนือที่แสนอบอุ่นของบ้านเรา ที่สามารถนั่งเครื่องบิน 1 – 2 ชั่วโมง ต่อเดียว เที่ยวคนเดียวไปกลับวันเดียวก็ยังได้ โดยมีให้ Transit เครื่องจาก สุวรรณภูมิ, ดอนเมือง, สนามบินภูเก็ต และสนามบินนานาชาติอื่น ๆ หลายรอบต่อวัน ทำให้นักท่องเที่ยวสะดวกมากขึ้น หรือหากไปเที่ยวโดยไร้การวางแผนใด ๆ เชียงใหม่ก็ยังเป็นเมืองที่ต้อนรับทุกคน
“เชียงใหม่” มีอะไรน่าเที่ยว
ถ้าหากอยากจะเดินทางไป “เชียงใหม่” เพื่อช้อปปิ้งของหรู ของแบรนด์เนม นั้นอาจจะไม่ตอบโจทย์ หากอยากช้อปปิ้งอย่างเดียว Icon Siam, Siam Paragon และห้างอื่น ๆ ในกรุงเทพอาจจะตอบโจทย์มากกว่า ส่วนเชียงใหม่เหมาะจะซื้อของฝาก ผ้าทอพื้นเมือง กระเป๋าสาน เครื่องประดับ เพื่อไปฝากคนที่บ้านมากกว่า เชื่อว่าทุกท่านคงเคยได้ยินกิตติศัพท์ของเชียงใหม่มามากแล้ว แต่ผู้เขียนขอแบ่งหมวดหมู่การท่องเที่ยวเพื่อให้ง่ายต่อการวางแผนตัดสินใจออกเป็น 5 หมวดหมู่ใหญ่ ๆ ดังนี้
- หมวดที่ 1 – เที่ยวในเมือง ไหว้พระ ขอพร
- หมวดที่ 2 – เดินตลาดกลางคืน เที่ยวถนนคนเดิน และตามหาร้านกาแฟ Cafe น่ารัก ๆ ตอนกลางวัน
- หมวดที่ 3 – อยากหนาว ไปขึ้นดอย นอนม่อน
- หมวดที่ 4 – อยากผจญภัย แอดเวนเจอร์ หาที่ล่องแก่ง
- หมวดที่ 5 – เที่ยวชมสัตว์ ที่ปางช้าง หรือ แวะสวนสัตว์เชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี
แนะนำ 5 ที่เที่ยวเชียงใหม่ แบบแปลกใหม่
1 ล่องแก่ง ที่แก่งกื้ด
จากประสบการณ์ที่เพิ่งเดินทางไปเที่ยวที่เชียงใหม่มาในช่วงปี 2017 – 2019 นี้ ก็ยังคงประทับใจอยู่ เราสามารถเดินทางขึ้นเครื่องทั้งจากดอนเมือง และสุวรรณภูมิได้ หากไม่ได้เอารถยนต์ไปจอดที่สนามบิน ก็ต่อรถ Shuttle Bus ไปส่งสนามบินได้อย่างสะดวก ซึ่งภาพจำเชียงใหม่ในความทรงจำของหลาย ๆ ท่าน อาจจะมีทั้งมุมมองเมืองที่เต็มไปด้วยความสะดวกสบายเหมือนกรุงเทพ และเป็นเมืองที่มีโซนท่องเที่ยวแบบวัฒนธรรมอยู่ แต่ผู้เขียนก็อยากเปิดมุมมองให้คุณได้ลองไปยังโซนที่ขับรถขึ้นยาก ๆ หน่อย อย่างแก่งกื้ด ที่นี่มีให้ ล่องแก่ง (ล่องแม่น้ำแตง) เป็นกิจกรรมแบบครอบครัว Adventure สุด ๆ ซึ่งสามารถซื้อกิจกรรมได้จากที่พักโรงแรม หรือว่าขับรถมายังริมแก่ง มีหลายร้านให้เลือก เจ้าหน้าที่แนะนำว่าทุกคนควรทำประกันอุบัติเหตุก่อนเล่น เพื่อป้องกันอันตรายค่ะ
(ภาพจาก topchiangmai.com)
2 จิบกาแฟที่แม่กำปอง
เชียงใหม่เป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ถ้าหากคุณเที่ยวในโซนเมืองก็เจอบ้านที่ก่ออิฐสร้างปูนเป็นตึกแถวไปทั้งหมดแล้ว แนะนำให้คนที่ไม่เคยมาเชียงใหม่ต้องปักหมุดมาแวะที่นี่ มีคำนิยามหมู่บ้านแม่กำปองจากคนที่เคยมาเที่ยวพักว่าเป็นหมู่บ้านท่ามกลางขุนเขาธรรมชาติ คือหากได้มาสัมผัสคุณจะรู้สึกว่าเหมือนอยู่ในภาพยนตร์โรแมนติกสักเรื่องเลยทีเดียว อาชีพหลักของชาวบ้านคือทำไร่และมีสวนกาแฟ แต่หากอยากจองที่พักบนแม่กำปองอาจจะต้องจองกันล่วงหน้าหลายเดือน มีห้องพักจำนวนไม่มากนัก และแนะนำว่าห้ามมาช่วงเทศกาล คนจะแน่นจนไม่มีที่จอดรถ และหากขับรถมาเอง ระวังจะเหยียบไก่ของชาวบ้านด้วย
(ภาพจาก วิกิพีเดีย)
3 ไหว้พระที่วัดอุโมงค์ – ซื้อเซรามิกที่ชุมชนบ้านข้างวัด
ทริปที่มีผู้สูงอายุมาด้วยแนะนำให้พักในเมือง ทางขึ้นดอยสุเทพ จะมีวัดหนึ่งชื่อว่าวัดอุโมงค์ เป็นสวนพุทธรรม ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานตั้งแต่ยุคสร้างเมืองล้านนาเลยทีเดียว มีประวัติว่าบูรณะมาจากวัดเวฬุกัฎฐาราม วัดนี้เคยอยู่ในช่วงรกร้างเพราะอยู่ท่ามกลางพื้นที่ทำสงครามระหว่างล้านนากับพม่า ซึ่งมีการปรับปรุงบูรณะมาหลายครั้ง โดยเฉพาะจิตรกรรมฝาผนังด้านในวัดอุโมงค์ที่วาดด้วยมือ เป็นศิลปะภาพเขียนสีกว่า 500 ปี จึงจำเป็นต้องใช้จิตรกรที่มีความชำนาญสูงมาคัดลอกด้วยเทคนิคพิเศษ ซึ่งเป็นวัดที่หลวงพ่อปัญญานันทะ เคยมาจำพรรษาที่นี่ด้วย และแน่นอนว่าความเชื่อเรื่องโชคลาภกับชาวไทยมักมาคู่กัน ผู้เขียนเคยซื้อลอตเตอร์รี่จากผู้ค้าที่มาจำหน่ายในวัดนี้ เกือบถูกรางวัลที่ 5
(ภาพจาก วิกิพีเดีย)
4 ดูโชว์ที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี
ทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถชมโชว์การแสดงสัตว์แสนรู้ต่าง ๆ ในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้ จะมาตอนกลางวัน หรือกลางคืน เจ้าสัตว์ทั้งหลายก็พร้อมต้อนรับทุกท่าน มีเส้นทางให้นั่งรถส่องสัตว์ให้อาหารยีราฟ รวมถึงชมโชว์จากสิงโตในห้องจัดแสดง ที่เด็ก ๆ จะจดจำเป็นประสบการณ์ที่ดีไม่รู้ลืม แน่นอนว่าต้องมาตอนเย็น ๆ
(ภาพจาก Klook.com)
5 เดินถนนคนเดินเชียงใหม่ – ประตูท่าแพ
จะว่าไปสินค้าที่จำหน่ายบนถนนคนเดิน ก็ไม่ได้แตกต่างจากถนนคนเดินอื่น ๆ ในเมืองเหนือเท่าไหร่ ทั้งชุดเที่ยวเหนือ รวมถึงสินค้าพื้นเมืองอื่น ๆ ส่วนอาหารก็จะเน้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติรับประทานได้ และไม่น่าเชื่อว่าจะมี Seafood เยอะขนาดนี้ แต่หากอยากรับประทานอาหารเหนือแบบขนมจีน หรือ ขันโตก ต้องเป็นช่วงกลางวัน และเป็นร้านรวงริมถนนในเมือง แนะนำว่าให้รีบไปตั้งแต่ช่วง 19.00 น. อากาศจะไม่ร้อนและเดินไม่เหนื่อย เหมาะเป็นกิจกรรมฆ่าเวลาช่วงค่ำ
(ภาพจาก thaiticketmajor.com)
..จะไป “เชียงใหม่” กับใคร?
ทีนี้มาถึงขั้นตอนการวางแผนเที่ยวเชียงใหม่กันแล้ว เมืองน่ารัก ๆ นี้ สามารถจัด One Day Trip ได้ หรืออย่างน้อยที่สุดควรจะมา 3 วัน 2 คืน ถ้ามาคืนเดียวก็เหมือนจะได้สัมผัสอะไร ๆ น้อยเกินไป ซึ่งอย่างน้อยควรจะหาเวลาไหว้พระขอพร ก่อนจะเยี่ยมชมชุมชนวัฒนธรรมต่าง ๆ หรือเที่ยวอีกแบบในวิถีสัมผัสธรรมชาติ อย่างที่ได้ปลดปล่อยร่างกายคืนสู่ธรรมชาติบ้าง ดังนั้นต้องมาพิจารณากันก่อนว่าจะพาใครไปด้วย
- ไปคนเดียวก็ได้ โดยมองหาที่พักที่ปลอดภัย จองล่วงหน้าไว้ก่อน และเตรียมเก็บกระเป๋าสัมภาระให้พอดี
- ไปเที่ยวกับครอบครัว จองตั๋ว ที่พัก แล้วค่อยไปหารถเช่าขับรอรับที่สนามบิน
- ไปเที่ยวกับแก๊งค์เพื่อน อันนี้หลากหลายหน่อย เพราะต้องดูแลสมาชิกแตกต่างกัน
- ไปเที่ยว Outing กับ Office ซึ่งอาจจะต้องเช่ารถที่บรรทุกผู้โดยสารได้เป็นหมวดหมู่คณะ
- ไปทริปทำบุญผ้าป่า กฐิน กับผู้สูงวัย อาจจะต้องเช่ารถทัวร์คันใหญ่นั่งสบาย
ตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวใน “เชียงใหม่”
เที่ยวเชียงใหม่ ต้องเลือกรถเช่าแบบไหน?
เพื่อความสะดวก ควรเลือกบริษัทที่มีบริการรถเช่ามาส่งและรับรถคืนได้ที่สนามบิน หรือบางเจ้าก็มีข้อตกลงว่ามาส่งและรับคืนได้จากที่พัก ขึ้นอยู่กับความสะดวกของคุณ ซึ่งหากแบ่งตามประเภทของรถ กับผู้ร่วมทริป สามารถแบ่งตามความเหมาะสมได้ดังนี้
- รถอีโคคาร์ (ราคาเช่าเริ่มต้นวันละ 650 บาท) – เหมาะสำหรับเที่ยวคนเดียว หรือครอบครัวลูกหนึ่ง หรือสมาชิกไม่เกิน 4 คน และเที่ยวในเมืองเท่านั้น
- รถขนาดเล็ก (ราคาเช่าเริ่มต้นวันละ 690 บาท) – เหมาะสำหรับจำนวนสมาชิกไม่เกิน 4 คน ที่รูปร่างกะทัดรัด
- รถขนาดกลาง (ราคาเช่าเริ่มต้นวันละ 799 บาท) – เหมาะสำหรับจำนวนสมาชิกไม่เกิน 4 คน และรูปร่างใหญ่
- รถขนาดใหญ่ (ราคาเช่าเริ่มต้นวันละ 1,750 บาท) – เหมาะสำหรับจำนวนสมาชิกไม่เกิน 4 คน และสมาชิกมีรูปร่างคละกัน รวมถึงเผื่อที่วางสัมภาระและสินค้าช้อปปิ้ง
- รถเอสยูวี (ราคาเช่าเริ่มต้นวันละ 1,490 บาท) – เหมาะสำหรับจำนวนสมาชิก 4 คนขึ้นไป และมีเด็ก หรือต้องการขึ้นดอย
- รถตู้ (ราคาเช่าเริ่มต้นวันละ 3,300 บาท) – เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุร่วมทริป
- รถกระบะ (ราคาเช่าเริ่มต้นวันละ 1,250 บาท) – เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบรรทุกสัมภาระกางเต็นท์ เที่ยวในเส้นทางที่ต้องขึ้นดอย
นอกจากนี้คุณอาจจะต้องการท่องเที่ยวแบบได้พักผ่อนเต็มที่ ก็สามารถเช่ารถ Luxury พร้อมคนขับได้ ซึ่งก็มีราคาเริ่มต้น 2,200 บาท ขึ้นไปเท่านั้น ซึ่งราคาทั้งหมดนี้เป็นราคาต่อวัน หากคุณเที่ยวหลายวันก็อาจจะขอต่อรองราคาเป็นราคาเหมาได้
ตรวจสภาพ “รถเช่า” ก่อนขับเดินทาง.. ทำอย่างไร?
หากเป็นการเช่ารถพร้อมคนขับ ส่วนใหญ่คนขับก็จะเช็ครถมาให้พร้อมแล้ว แต่หากเป็นการเช่ารถขับเองก็ต้องดูหลาย ๆ อย่าง ก่อนเดินทาง ดังนี้
- หากดูรถจากเว็บไซต์ ควรเลือกรถจากปีล่าสุด เพราะยังเป็นรถที่ใช้งานน้อยอยู่
- ตรวจสอบดอกยาง ลมยาง เพราะหากต้องไปเปลี่ยนยางแตกกลางทางนั้นอันตรายและไม่สะดวก
- ตรวจสอบเสียงเครื่องเมื่อสตาร์ท ดูว่ามมีอาการอะไรผิดปกติ ที่แสดงขึ้นมาบนหน้าปัดหรือไม่?
- ตรวจสอบแบตเตอรี่ ไม่ควรไปหมดกลางทางแน่
- ตรวจสอบแอร์ ว่ามีลมผ่านเข้าออกได้ปกติหรือเปล่า?
- ตรวจสอบการล็อครถ ว่าสามารถล็อคได้แน่นหนา เพราะหากจอดไว้รถจะได้ไม่มีความเสียหาย
- กระจกมองข้าง ยางปัดน้ำฝน และอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการขับขี่
นอกจากนี้ เรื่องอื่น ๆ อย่าง “วิทยุ” “กล้องติดรถยนต์” ก็เป็น Gadget ที่บางท่านต้องการเหมือนกัน ก็ลองสอบถามกับทางบริษัทเช่ารถดูครับ และขั้นตอนการเช่าก็คือเมื่อเราติดต่อตกลงจะรับรถยนต์แล้วก็จะมีการวางบิลเก็บค่ามัดจำกุญแจ มัดจำรถ และค่าประกันรถยนต์ไว้ก่อน ก่อนจะเอารถออกไปขับเที่ยวนั้นเราจะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายเหล่านี้ก่อน หลังจากเอารถมาคืนแล้วทางบริษัทก็จะคืนเงินมัดจำใจตามที่กำหนด
อ่านเพิ่มเติม :
- ร้านอาหารวันแม่ 2563 เชียงใหม่
- แนะ 5 สถานที่เล่นน้ำสงกรานต์ เชียงใหม่ 2563
- โปร AirAsia บินตรงจาก เชียงใหม่ ถึง ดานัง-ฮอยอัน เพียง 1,090 บาท
- 7 สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่หน้าฝน ที่ไม่ควรพลาด!