แป๊ปเดียว เดี๋ยวก็มาหน้าร้อนอีกแล้ว และหน้าร้อนปีนี้ คาดว่าน่าจะร้อนหนักกว่าเดิม เนื่องจากภาวระโลกร้อนที่ดูแล้วน่ารุนแรงกว่าเดิม ยกตัวอย่างเช่นในประเทศที่หนาวจัดอย่างรัสเซียในเมือง Moscow มีอากาศอุ่นขึ้นกว่าเดิมเมื่อเทียบกับ 140 ปี ที่ผ่านมา และอีกหลายๆแห่งในโลก ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงประเทศไทยว่าจะมีอากาศร้อนหรือไม่? คำตอบคือมีแน่นอน ดังนั้น หลายคนอาจมีการเตรียมตัวเลือกซื้อเครื่องทำความเย็น อย่างแอร์บ้านตัวล่าสุดอย่าง แอร์ Inverter หรือจะเป็นพัดลมไอเย็น ซึ่งยังมีข้อถกเถียงกันอยู่มาเป็นแรมปี ว่าการซื้ออะไรจะคุ้มค่าเงินกว่ากัน
หลายคนพยายามตัดสินใจในเรื่องนี้ เนื่องจากว่า มีข่าวแว่วมาว่า แอร์บ้านและเครื่องใช้ไฟฟ้า จะมีราคาสูงขึ้นในปี 2565 ซึ่งอาจต้องมาเตรียมตัวซื้อกัน หรือ เปลี่ยนแอร์เก่าออก ก่อนที่ราคาจะเปลี่ยนแปลง เรามาศึกษาข้อมูลกันก่อนดีกว่า ว่าจะซื้ออะไรดี? ระหว่าง แอร์บ้าน และ พัดลมไอเย็น
เข้าใจการทำงานของ พัดลมไอเย็น แบบง่ายๆ
ในหน้านี้มีอะไรบ้าง?
มีพัดลมไอเย็นหลายรุ่น และ ยี่ห้อในปี 2565 นี้ให้เลือก แถมมีโปรโมชั่น บางแห่งมีการให้ผ่อน 0% อีกต่างหาก พัดลมไอเย็น ถูกจัดเป็นหนึ่งในประเภท “แอร์เคลื่อนที่” โดยใช้ระบบ Evaporation โดยให้น้ำธรรมดา น้ำเย็น หรือแม้แต่การใส่น้ำแข็งเพื่อให้น้ำเกิดความเย็น ไหลผ่านรังผึ้งหลังพัดลม และมีการเป่าความเย็นเหล่านั้นออกมาเพื่อสร้างความเย็นในห้อง หากจะให้เห็นภาพง่ายๆก็คือ ให้น้ำไหลผ่านช่อง โดยน้ำจะเป็นตัวทำความเย็น และเป่าลมที่เย็นกว่าอุณหภูมิห้องออกมา พร้อมความชื้นด้วย
จุดสำคัญที่ ควรดูว่า เครื่องทำความเย็นแบบไหน เหมาะกับห้องของเราที่สุด
ไม่มีความลับในเรื่องนี้ เพราะ แอร์บ้านจะใช้พลังงานไฟฟ้า เพื่อทำให้บ้านเย็นโดยการเป่าลมเย็นออกมา และหากเป็นเครื่องทำความเย็นชิ้นอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน โดยการเลือกซื้อแอร์บ้าน จะระบบไหนก็ตาม หรือ จะเป็น พัดลมไอเย็นก็ควรคำนึงถึงเรื่องเหล่านี้เป็นสำคัญ
สภาพอากาศ
ยิ่งอากาศข้างนอกบ้านหรือนอกห้องพัก ร้อน ด้านในห้องก็จะร้อนตามไปด้วย และเป็นหน้าที่ของเครื่องทำความเย็นที่จะเป่าลมเย็นออกมาไล่ลมร้อนออกไป การที่จะลดอุณหภูมิแค่เพียง 4-5 องศา ในวันที่อากาศร้อน จะไม่เท่ากันกับการลดอุณหภูมิ 10+ องศา ในวันที่อากาศร้อนมาก ซึ่งพัดลมไอเย็นจะสามารถลดอุณหภูมิได้มากที่สุด 4-10 องศา เฉพาะอากาศที่ครอบคลุมถึงเท่านั้น และจะไม่สามารถทำงานได้ดีเท่ากับ แอร์บ้าน ชนิดต่างๆ (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดพัดลมไอเย็น และ ขนาด BTU ของแอร์ด้วย)
ขนาดของห้อง
แอร์บ้านจะทำความเย็นทั่วถึงไม่ได้เลย หากไม่ได้มีการคำนวณขนาด BTU กับขนาดของห้อง ยกตัวอย่างเช่นการติดตั้งแอร์บ้าน หนึ่ง ตัว จะไม่สามารถทำให้บ้านเย็นได้ทั้งหลังแน่นอน และยังทำให้กินไฟมากอีกด้วย เช่นห้องไม่เกิน 20 ตารางเมตร ควรใช้ BTU ราวๆ 8,000 BTUs ซึ่งหากมีห้องขนาดใหญ่ขึ้นเช่น 60 ตารางเมตร ก็ต้องมี แอร์อย่างน้อยๆ 14,000 BTUs แต่ถ้าเป็นห้องครัวหล่ะก็ ควรที่จะต้องมี ขนาด BTU ที่มากกว่าเดิม เพราะมีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำให้มีความร้อนเยอะกว่า
รับกับค่าไฟ ได้มากขนาดไหนในแต่ละเดือน?
ค่าไฟของแอร์บ้าน แน่นอนว่ามีราคาสูงกว่าพัดลมไอเย็นอยู่แล้ว และจะมีราคาพุ่งสูงขึ้นเมื่อใช้เกินอัตราที่กำหนด เพราะเนื่องจากการไฟฟ้ามีวิธีคิดคำนวณค่าไฟ ตาม Unit และ ตามลักษณะของที่อยู่อาศัยด้วย และถ้าเป็นหน้าร้อนแล้วหล่ะก็ ถ้าเปิดทุกวัน เปิดบ่อยๆ ค่าไฟอาจพุ่งขึ้นเป็นหมื่นบาทได้ง่ายๆ แต่สำหรับ พัดลมไอเย็นแล้ว ถึงแม้จะไม่ได้เย็นเท่าแอร์บ้าน แต่ก็จะกินไฟน้อยกว่า เพราะมีการใช้ลมเป่าอย่างเดียว (กินไฟเทียบเท่าพัดลม)
ข้อดีข้อเสียของพัดลมไอเย็น
ถ้ามี 6 ข้อนี้ “ไม่ต้องซื้อพัดลมไอเย็น” และ “ซื้อแอร์บ้านดีกว่า”
จะติดแอร์บ้านดี หรือ จะซื้อพัดลมไอเย็นมาดี? อันนี้แล้วแต่คน แต่ถ้า บ้านใคร ที่อยู่ใคร มี 6 ข้อนี้ ก็ซื้อแอร์มาติดตั้งจะคุ้มกว่า
- มีเงินพอที่จะซื้อแอร์ได้ แบบไม่ลำบากมาก – ไม่ต้องกล้วการกินไฟ เพราะ เราสามารถควบคุมได้ว่าจะเปิดเมื่อไหร่ จะปิดเมื่อไหร่ ขอแค่อย่าลืมปิดแล้วกัน และ ปัจจุบัน แอร์ใหม่ๆ มักจะมี ระบบอินเวอร์เตอร์มาให้ใช้ ทำให้ประหยัดไฟมากกว่าเดิมหลายเท่า ลองไปเลือก แอร์ Inverter รุ่นใหม่ปี 2020 และเช็คราคาดูก่อน ต่างกันไม่เท่าไหร่
- เป็นคนขี้ร้อน นอนไม่ได้หากอากาศร้อนมาก – ปีนี้ อากาศจะร้อนมากๆเลยทีเดียว ถ้าเป็นคนขี้ร้อน พัดลมไอเย็นไม่ได้ทำให้เย็นลง เผลอๆ จะทำให้ป่วยได้อีกต่างหาก
- นิติในอพาร์ทเมนต์ คอนโด อนุญาตให้ติดแอร์ได้ – คือบางแห่งจะเข้มมากเกี่ยวกับการเจาะผนัง การต่อท่อ ฯลฯ ซึ่งต้องเสียค่าปรับ แต่บางแห่งก็ไม่ได้มีกฎอะไรมากมาย ติดแอร์ไปเถอะ เพราะมันร้อน
- ไม่ได้ต้องการให้เย็นจุดใดจุดหนึ่ง – ความหมายคือ พัดลมไอเย็นมันทำให้เย็นเฉพาะจุดที่ลมไปถึงเท่านั้น แต่แอร์มันทำให้เย็นทั้งห้อง ถ้าอยากเย็นทั้งห้อง ให้ติดแอร์ ถ้าอยากเย็นเฉพาะจุด (ซึ่งจะมีคนอยากให้เย็นเฉพาะจุดมากขนาดไหนกัน?) ก็ซื้อพัดลมไอเย็น
- ไม่ค่อยอยู่ห้อง ไม่ค่อยอยู่บ้าน – แอร์เปิดแค่ไม่กี่ครั้ง ค่าไฟไม่ได้แพงมากมายขนาดนั้น หากเป็นคนที่ไม่ค่อยอยู่บ้าน เช่นจะอยู่เฉพาะกลับมาจากที่ทำงาน หรือเสาร์อาทิตย์เท่านั้น ควรซื้อแอร์ อย่างน้อยๆ ก็เป็นรางวัลให้ตัวเอง หลังจากร้อน เหนื่อย เหนียว มาทั้งวันแล้ว
- เป็นคนไม่ชอบอากาศชื้น – พัดลมไอเย็นเป็นตัวทำให้อากาศชื้น อย่างที่อธิบายไปแล้ว แต่ ในทางกลับกัน แอร์บ้านจะทำให้อากาศแห้ง หากเป็นคนไม่ชอบอากาศชื้น คัดจมูกทุกครั้ง อย่าได้ซื้อพัดลมไอเย็นมาใช้เป็นอันขาด
หากไม่นับในเรื่องที่ว่า แอร์บ้าน “อาจ” มีราคาสูงขึ้นในปี 2565 นี้ การซื้อแอร์บ้านปีนี้ น่าจะตอบโจทย์ที่สุดในการสู้กับความร้อน และ อากาศร้อน เนื่องจากมี แอร์บ้านหลายยี่ห้อแข่งกันทำตลาดในไทยค่อนข้างมาก จะเห็นได้จากการเปิดตัวสินค้าจากยี่ห้อแอร์บ้านที่เราอาจไม่เคยได้ยินกันมาก่อน หรือจะเป็นโปรโมชั่นผ่อนแอร์ 0% ที่เล่นกันตั้งแต่ต้นปี รวมถึง แอร์บ้านที่มีจุดเด่นตรงที่ สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ คือจะได้ไม่ต้องไปซื้อเครื่องฟอกอากาศมาใช้เพิ่มเติม และนี่คือเหตุผลทั้งหมดที่ การซื้อแอร์บ้านในปี 2565 นี้ น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าพัดลมไอเย็น
อื่นๆเกี่ยวกับแอร์บ้าน และพัดลมไอเย็น
- เปิดตัวใหม่ แอร์ SAMSUNG Inverter 2563 กับ 5 ข้อดี ตัดสินใจง่าย
- แอร์ Xiaomi SmartMi Full DC Air Conditioner ราคาเริ่มต้น 10,000 บาท
- รวม 6 โปรโมชั่น ผ่อนพัดลมไอเย็น 0% ยาว 10-48 เดือน
- พัดลมไอเย็นดีไหม ? ซื้อยี่ห้อไหนดี ?