การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ยุค COVID-19
ในหน้านี้มีอะไรบ้าง?
หลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัศโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลกเริ่มคลี่คลาย หลาย ๆ ประเทศที่ได้รับผลกระทบ เพราะต้องปิดประเทศ เพื่อควบคุมการแพร่เชื้อ #COVID19 ให้อยู่ในวงจำกัด และเมื่อภาพรวมเรื่องตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติอย่างมั่นใจมากขึ้น หลายประเทศทั่วโลกเริ่มออกนโยบายสำคัญ เพื่อให้การเดินทางกลับมากระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้ง
และหนึ่งในนโยบายที่หลายประเทศเลือกใช้ นั่นคือ Travel Bubble (ทราเวล บับเบิล) นโยบายที่จะช่วยส่งเสริมให้ประเทศที่ปลอดการแพร่เชื้อโควิด-19 กลับมาเดินทางระหว่างกันได้อีกครั้ง เพื่อเป็นแรงหนุนสำหรับช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น
Travel Bubble คืออะไร ?
เป็นการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ หลังวิกฤตโควิด-19 โดย Travel Bubble จะทำได้ต่อเมื่อประเทศคู่ตกลงไม่มีผู้ติดเชื้อแล้ว หรือมีจำนวนผู้ติดเชื้อใกล้เคียงกัน มีการจัดการที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพเท่า ๆ กัน ฉะนั้น ทั้ง 2 ประเทศจะต้องมีความเชื่อมั่นในการจัดการโรคโควิด-19 ซึ่งกันและกัน มีมาตรการตรวจหาเชื้อและป้องกันอย่างเข้มงวด โดยต้องตรวจหาเชื้อก่อนออกนอกประเทศต้นทาง และตรวจอีกครั้งเมื่อเดินทางเข้าสู่ประเทศปลายทาง
มาตรการ Travel Bubble ของประเทศไทย
สำหรับมาตรการ Travel Bubble ของประเทศไทย ผู้ที่เดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศไทย จะได้รับการปฏิบัติต่อกันดังนี้
(1) ผู้เดินทางภายใต้ความตกลง Travel Bubble สามารถเดินทางเข้าประเทศ โดยไม่ต้องถูกกักตัว 14 วัน
(2) ต้องมีการตรวจเชื้อไวรัส #โควิด19 ก่อนเดินทางออกนอกประเทศต้นทาง และตรวจอีกครั้งเมื่อเดินทางเข้าประเทศ
(3) มีประกันโควิด-19
(4) มีกำหนดจำนวนคนที่อนุญาตให้เดินทางแลกเปลี่ยนกัน
(5) มีจัดการแบบพิเศษในเรื่องการขอวีซ่า การโดยสารเครื่องบิน ที่พัก การเยี่ยมเยือน การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และผู้รับประกัน
(6) อาจมีการกำหนดพื้นที่ปิด (Sealed Area) เป็น Safe Zone for Tourism โดยพิจารณาจากแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองหลักและเมืองรองที่ประชาคมเต็มใจเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาพำนักและท่องเที่ยว
เป้าหมายในการจับคู่ Travel Bubble ของประเทศไทย คือ ?
สำหรับประเทศกลุ่มเป้าหมายของประเทศไทยในระยะแรก ที่จะจับมือด้านการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ยุค COVID-19 ตามมาตรการ Travel Bubble มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
(1) จีน รวมฮ่องกง และมาเก๊า มีการหารือกับภาครัฐระดับเมืองของจีน และสำนักงานพาณิชย์ของฮ่องกง แสดงความประสงค์ที่จะหารือกับฝ่ายไทยต่อ เพื่อให้เกิด Travel Bubble ระหว่างกัน
(2) เวียดนาม มีการหารือแล้วกับ Vietnam National Administration of Tourism (VNAT) ซึ่งแสดงความสนใจที่จะหารือกับฝ่ายไทยต่อ
(3) ประเทศอื่น ๆ ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ลาว เมียนมา กัมพูชา และตะวันออกกลาง โดยยังอยู่ระหว่างหารือกับทางสำนักงาน ททท. ในต่างประเทศ
เบื้องต้น กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ประเทศไทย เล็งเปิดรับตามมาตรการ Travel Bubble คือ
- กลุ่มนักธุรกิจ ที่จำต้องเดินทาง เพื่อประสานงานกับนักธุรกิจหรือคู่ค้าในต่างประเทศ หรือมีความจำเป็นต้องเดินทางเข้ามาไทย
- กลุ่มชาวต่างชาติ ที่มีความประสงค์เดินทางมาเข้ายังประเทศไทย เพื่อเข้ารับการตรวจรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี แนวทางโครงการ “Travel Bubble” ที่เรานำมาฝากนั้น ยังอยู่ขั้นตอนการเจรจาหารือหลายฝ่าย ก่อนนำเสนอรายละเอียดเข้าที่ประชุม ศบค. อีกครั้ง
และไม่ว่าสุดท้ายแล้ว ผลการหารือการจับคู่ประเทศเที่ยวจะออกมาในรูปแบบไหน แต่ทุกคนยังต้องปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกันเชื้อ COVID-19 อย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโรค, ต้องเว้นระยะห่างสำหรับบุคคล หมั่นล้างมือบ่อย ๆ หรือเช็ดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ เป็นต้น
READ MORE :
- ลงทะเบียนเที่ยวปันสุข ต้องทำอย่างไร ? ให้ได้สิทธิ์รับเงิน
- แง้มข่าวดี ! ลุ้น 1 กรกฎาคมนี้ เปิดน่านฟ้า บินเข้า-ออกไทย ไม่กักตัว 14 วัน
- เช็คเลย ! สายการบิน-ท่าอากาศยาน กลับมาเปิดให้บริการแล้ว
- สายการบินเปิดให้บริการแล้ว ราคาตั๋วเครื่องบินแพงขึ้นไหม?
- การ์ดอย่าตก ! แนะข้อปฏิบัติเที่ยวชายหาด ยังไงถึงปลอดภัย ลดเสี่ยง COVID-19