การผ่อนรถมาแล้วมากกว่า 1 ปี เช่น 15 เดือน หรือ 2 ปี เช่นมากกว่า 24 เดือน ไม่ได้เป็นตัวกำหนดว่าจะสามารถรีไฟแนนซ์ได้หรือไม่ แต่ตัวกำหนดสำคัญคือ มูลหนี้ที่เหลือ เช่นในบางกรณี เจ้าของรถมีการดาวน์รถในจำนวนเงินที่สูง ทำให้มีช่องว่างในการรีไฟแนนซ์ได้แม้จะผ่อนมาเพียงแค่ไม่ถึงปีก็จะสามารถรีไฟแนนซ์ได้ อ่านตัวอย่างการ รีไฟแนนซ์รถยนต์ หลังจากผ่อนมาแล้ว 1 ปี ที่นี่ 

การกู้ยืมเงินแบบไม่มีหลักทรัพย์ หรือที่เรียกว่า Unsecured Loan มักจะมีดอกเบี้ยที่สูงกว่า หากเปรียบเทียบกันกับการ Refinance รถ หรือ จำนำทะเบียนรถ จะมีดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า เพราะการใช้รถเป็นหลักทรัพย์ เรียกว่า “Secured Loan” โดยมีทรัพย์สินมายืนยันว่าหากมีการผิดนัดชำระหนี้ ก็จะยังคงมีทรัพย์สินขายทอดตลาดเพื่อใช้หนี้ได้ ซึ่งทำให้ดอกเบี้ยนั้นถูกกว่ามาก

การรีไฟแนนซ์รถ และ จำนำทะเบียน โดยมากแล้วจะมีวงเงินที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับหลักทรัพย์ นั่นคือมอเตอร์ไซค์ หรือ รถยนต์ โดยที่วงเงินจะแตกต่างกันไปในแต่ละยี่ห้อรถ รุ่นรถ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับ ฐานรายได้ ความสามารถในการผ่อนชำระคืน และภาระหนี้สินด้วย

ระยะเวลาในการผ่อนค่างวดขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลัก คือ วงเงินกู้ และ ความสามารถในการผ่อนจ่าย ซึ่งโดยมาก การรีไฟแนนซ์รถยนต์ จะมีระยะเวลากู้ยืมระหว่าง 48 เดือน ไปจนถึง 84 เดือนเลยทีเดียว ทั้งนี้ทั้งนั้น การผ่อนค่างวด 84 เดือน มีข้อดีข้อเสีย ควรศึกษาก่อนการตัดสินใจ

ปัจจุบันการรีไฟแนนซ์รถยนต์ และการจำนำทะเบียน มีดอกเบี้ยให้เลือก 2 ประเภท คือ Effective Rate และ Flat Rate. ดอกเบี้ยแบบ Flat Rate คือดอกเบี้ยคงที่ และ Effective Rate คือดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก โดยส่วนมากแล้วบริษัทไฟแนนซ์จะให้อัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกสูงกว่า แบบ คงที่ เพราะสามารถโปะได้ และ ปิดได้ โดยมักจะมีส่วนลดดอกเบี้ยเมื่อปิดก่อนครบสัญญา 50%

หากเป็นอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก การปิดก่อนกำหนด จะไม่มีค่าปรับ แต่จะมีค่าธรรมเนียมการโอนเล่ม และ จะได้ลดดอกเบี้ย 50%

หลายสถาบันการเงินมีการกำหนดไว้ว่า หากมียอดค่างวดค้างมากกว่า 3 เดือน ขึ้นไป อาจถูกยึดรถได้

บริษัทไฟแนนซ์ หรือ สถาบันการเงินด้านบนนี้ เป็นบริษัทที่รับรีไฟแนนซ์รถยนต์ และ/หรือ จำนำทะเบียนรถยนต์ ทั้งที่ยังผ่อนไม่หมด และผ่อนหมดแล้ว โดยเปิดให้สามารถสมัครออนไลน์ได้ ซึ่งขั้นตอนทั่วไปมีดังนี้

1. สมัครออนไลน์ โดยการ กรอกชื่อ-นามสกุล เบอร์โทร
2. Call Center ติดต่อกลับ
3. ประเมินราคารถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รถบรรทุก
4. ส่งเอกสาร
5. รับเงินโอนเข้าบัญชี (ในกรณีที่มีวงเงินสูงเกิน 100,000 บาท)

การเช็คเครดิตบูโรนั้นเป็นการลดความเสี่ยงในเรื่องของหนี้เสียกับเจ้าของรถ หากสถาบันการเงินมองว่า ความเสี่ยงต่ำ ก็อาจไม่มีการเช็คเครดิตหรือจะเช็คก็เป็นได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น มีบางสถาบันการเงิน ที่รับรีไฟแนนซ์รถยนต์ แบบไม่เช็คเครดิต ก็มีเปิดบริการสำหรับผู้ที่มีประวัติค้างชำระเช่นเดียวกัน

เพราะมีบริษัทไฟแนนซ์อยู่หลากหลายบริษัท เราจึงทำการรวมบริษัทที่เป็นที่สนใจมากที่สุด ซึ่งสามารถ อ่านต่อที่นี่ รวมบริษัทไฟแนนซ์รถยนต์ที่ดีที่สุด