โดยมากแล้วการพักชำระหนี้ ที่เป็นแบบเงินกู้ เช่น บัญชีไฟแนนซ์รถยนต์ หนี้บ้าน และ SMEs จะมีในรูปแบบ ผ่อนดอกเบี้ย 6 เดือน หรือ หยุดผ่อน 3 เดือน รวมถึงการลดดอกเบี้ย แต่สำหรับ บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลนั้นมักจะเป็นแบบลดอัตราดอกเบี้ย และ ปรับการผ่อนชำระขั้นต่ำมากกว่า ซึ่งล่าสุด Citibank น่าจะเป็นสถาบันการเงินแห่งแรกที่มีการ ให้จ่ายขั้นต่ำ จาก 10% เป็น 5% วันนี้เรามาดูของ กรุงศรี เฟิร์สช้อย ว่าจะสามารถพักชำระหนี้ หรือ ปรับโครงสร้างได้อย่างไรบ้าง?
ลูกค้าบัตรเครดิต ลดขั้นต่ำ 50%
สำหรับบัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อย จะสามารถปรับขั้นต่ำการจ่ายค่าบัตรเครดิตจาก 10% เป็น 5% โดยไม่ต้องสมัคร โดยจะสามารถจ่ายขั้นต่ำ 5% หรือ ไม่น้อยกว่า500 บาท ได้ ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 และตั้งแต่ปี 2565 ไปจนถึง 2566 จะมีปรับขั้นต่ำใหม่ดังนี้
- ปี 2563 ถึง 2564 สิ้นปี ผ่อนขั้นต่ำ 5%
- ปี 2565 ทั้งปี ผ่อนขั้นต่ำ 8%
- ปี 2566 ทั้งปี ผ่อนขั้นต่ำกลับมาเป็น 10% เหมือนเดิม
สินเชื่อส่วนบุคคล ลดขั้นต่ำ จาก 5% เป็น 3%
สินเชื่องเงินสดแบบชำระขั้นต่ำ จะลดขั้นต่ำจาก 5% เป็น 3% โดยอัติโนมัติ แต่ต้องไม่น้อยกว่า 500 บาท ไม่ต้องสมัคร โดยสามารถเริ่มจ่ายขั้นต่ำ ได้ตั้งแต่ เมษายน 2563 ไปจนถึงปลายปี 2564 โดยมีรายละเอียดรายปีดังนี้
- ปี 2563 ถึง 2564 สิ้นปี ผ่อนขั้นต่ำ 3%
- ปี 2565 ทั้งปี ผ่อนขั้นต่ำ 4%
- ปี 2566 ทั้งปี ผ่อนขั้นต่ำกลับมาเป็น 5% เหมือนเดิม
อ้างอิง: เว็บไซด์ กรุงศรี เฟิร์สช้อยส์ มาตรการให้ความช่วยเหลือสมาชิกกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดไวรัสโควิด-19
ทำไมเราถึงเห็นว่าเรื่องนี้สำคัญ?
ถ้าไม่เดือดร้อนมาก ไม่ควรจ่ายขั้นต่ำ
การจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต หากไม่ได้มีความจำเป็นทางเศรษฐกิจและการเงินอย่างการ ถูกเลิกจ้างงาน การถูกลดเงินเดือน ฯลฯ ไม่ควรจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต และ สินเชื่อส่วนบุคคลไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น แม้ว่าทางธนาคารและสถาบันการเงินจะมีออกมาตรการช่วยเหลือ แต่ในท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้นมีดังนี้
- ขั้นต่ำไม่มากพอที่จะไปตัดต้นและดอก ทำให้มีดอกเบี้ยบานปลาย
- การจ่ายขั้นต่ำเป็นการเลี้ยงยอดหนี้เท่านั้น แต่หนี้ยังคงเดิม
- ทำให้มีการจ่ายดอกเบี้ยมากขึ้นในอนาคต รวมถึงหนี้ทั้งหมดเยอะขึ้นไปด้วย
- ทำให้ระยะเวลาผ่อนจ่ายนานขึ้นกว่าเดิม
- ทำให้เสียประโยชน์โดยใช่เหตุ เหมือนเป็นการจ่ายเงินฟรี
การจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต และ สินเชื่อ อาจทำให้ ต้องผ่อนยาวถึง 300 เดือน แต่สำหรับมาตรการนี้จากทางธนาคาร ที่มีการจ่ายขั้นต่ำ 5% จะช่วยยืดระยะเวลาสำหรับผู้ที่เดือนร้อน ไม่สามารถจ่ายเงินเต็มได้เท่านั้น และไม่ควรจ่ายขั้นต่ำเมื่อยังคงสามารถชำระเงินได้เต็มจำนวน
เช่นเดียวกันกับการพักชำระหนี้ในรูปแบบอื่นๆ การพักชำระหนี้แบบ ผ่อนดอกเบี้ย 6 เดือน และ หยุดผ่อน 3 เดือนให้ความแตกต่างกันในเชิงของกระแสเงินสดหมุนเวียนในครัวเรือน แต่สุดท้ายแล้ว ยังคงต้องจ่ายเท่าเดิม และในบางตัวเลือกต้องมีการจ่ายมากกว่าเดิมอีกด้วย