มาดูวิธียื่นภาษี 2565 ก่อน 31 มีนา 2565 ฉบับคนที่ทำไม่เป็นเลย

แวะดู ! เงินเดือนในแต่ละฐานภาษีเสียภาษีเท่าไหร่ ?

ในหน้านี้มีอะไรบ้าง?

ใกล้เข้ามาแล้วกับเทศกาลยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่ปีนี้จะต้องยื่นภายใน 31 มีนาคม 2565 เหมือนเดิม ซึ่งยอดเงินได้สุทธิเป็นยอดรายได้จากปี 2565 ทั้งสิ้น จะมาเรียกหาการลดหย่อนปีนี้คงไม่ทัน (แต่วางแผนสำหรับปีหน้าคงทันอยู่) แล้วยิ่งมีรายได้อื่น ๆ มากมายจากการปล่อยเช่าที่ ขายบ้าน หรือขายของออนไลน์ ก็ต้องเตรียมยื่นให้ดี เพื่อรักษาสิทธิ์ยื่นภาษีของตัวเอง วันนี้มาฟังวิธีการยื่นภาษีสำหรับมือใหม่กันค่ะ

 

ขั้นตอนที่ 1 ) ต้องรู้ว่าเงินได้สุทธิของตัวเองคือเท่าไหร่

ในการยื่นแบบเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะมีแบบให้ยื่นทั้งหมด 3 เอกสารด้วยการ โดยคุณต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ได้แก่

  • ภ.ง.ด. 90 สำหรับผู้มีเงินได้อื่น ๆ นอกจากการรับเงินเดือนผ่านบริษัทอย่างเดียว
  • ภ.ง.ด. 91 สำหรับผู้มีเงินได้จากการรับเงินเดือนผ่านบริษัทอย่างเดียว
  • ภ.ง.ด. 94 สำหรับผู้มีเงินได้หลายช่องทาง ต้องยื่นภาษีแบ่งเป็น 2 ครั้ง ต่อปี

รู้สักนิด ! เงินได้คืออะไร?

>> ความหมายของเงินได้คือเงินที่ได้รับจากการรับค่าตอบแทน ต่าง ๆ ในทางกฎหมายนั้นแบ่งออกเป็น 8 ข้อ ดังนี้

1)  เงินเดือน ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง โบนัส เบี้ยหวัด บำนาญ บำเหน็จ เงินค่าบ้านที่นายจ้างจ่ายให้,เงินที่คำนวณได้จากมูลค่าของการได้อยู่บ้านที่นายจ้างให้อยู่โดยไม่เสียค่าเช่า,เงินที่นายจ้างจ่ายชำระหนี้ใดๆซึ่งลูกจ้างมีหน้าที่ต้องชำระ,เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์ใดๆบรรดาที่ได้เนื่องจากการจ้างแรงงาน

2) เงินได้เนื่องจากหน้าที่ หรือตำแหน่งงานที่ทำ หรือจากการรับจ้างทำงาน

3) ค่าให้เช่าลิขสิทธิ์

4) ดอกเบี้ย เงินปันผล หรือเงินได้อื่นอันมีลักษณะทำนองเดียวกัน

5) เงินหรือประโยชน์อย่างอื่นที่ได้เนื่องจาก การให้เช่าทรัพย์สิน, การผิดสํญญาเช่าซื้อทรัพย์สิน,การผิดสัญญาซื้อขายเงินผ่อน ซึ่งผู้ขายได้รับคืนทรัพย์สินที่ซื้อขายนั้นโดยไม่ต้องคืนเงิน หรือประโยชน์ที่ได้รับไว้แล้ว

6) เงินได้จากวิชาชีพอิสระ หรือ วิชากฎหมาย การประกอบโรคศิลป์ วิศวกรรม สถาปัตยกรรม การบัญชี ประณีตศิลปกรรม

7) เงินได้จากการรับเหมาที่ผู้รับเหมาต้องลงทุนด้วยการจัดหาสัมภาระในส่วนสำคัญนอกจากเครื่องมือ

8) เงินได้จากการประกอบธุรกิจ การพาณิชย์ การเกษตร การอุตสาหกรรม การขนส่ง การขายอสังหาฯ อื่นการอื่นนอกจากเงินได้ตามมาตรา 40 (1)-(7)

 

ส่วนอัตราการเสียภาษีนั้น ของปี พ.ศ. 2562 มีดังนี้

 

ขั้น

เงินได้สุทธิ (บาท)

เงินได้ในขั้นนี้

อัตราภาษี (%)

จำนวนภาษีที่เสียในขั้นนี้

ภาษีสะสมของขั้น

1 0 – 150,000 150,000 5 ได้รับยกเว้น 0
2 150,001 – 300,000 150,000 5 7,500 7,500
3 300,001 – 500,000 200,000 10 20,000 27,500
4 500,001 – 750,000 250,000 15 37,500 65,000
5 750,001– 1,000,000 250,000 20 50,000 115,000
6 1,000,001– 2,000,000 1,000,000 25 250,000 365,000
7 2,000,001– 5,000,000 3,000,000 30 900,000 1,265,000
8 5,000,001 ขึ้นไป 35

 

 

ขั้นตอนที่ 2 ) ต้องรู้ตัวเองมีสิทธิ์ลดหย่อนอะไรได้บ้าง?

( ต้องอ่าน >> เช็คสิทธิ์ลดหย่อนภาษี 2562 ได้ที่นี่)

โดยปกติแล้ว การยื่นภาษีเงินได้นั้น หากได้รับเงินเดือนอย่างเดียว แล้วรายได้หรือเงินเดือนไม่ถึงประมาณ 26,600 บาท ยังไม่ต้องเสียภาษี แต่ว่ารายละเอียดของมนุษย์เงินเดือนอย่างเราแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน เพราะมีเหตุให้ลดหย่อนภาษีแตกต่างกัน อาทิ

  • บางทำประกันชีวิต บางคนก็ไม่ได้ทำ
  • บางคนมีคุณพ่อคุณแม่ที่อายุยังไม่ถึง 60
  • บางคนใช้สิทธิ์ลดหย่อนจากการสมรส และภรรยาไม่มีรายได้
  • บางคนมีบุตรหลายคน
  • บางคนลาออกระหว่างปี ทำให้เงินสมทบประกันสังคมไม่เท่ากัน
  • ฯลฯ

เพราะฉะนั้นการประเมินรายได้ และยอดส่งในการเสียภาษีของแต่ละฐานเงินเดือนก็ไม่เท่ากัน ผู้เขียนลองเปรียบเทียบฐานเงินเดือนคร่าว ๆ กับสิทธิ์ลดหย่อนประมาณ 15,000 บาท ซึ่งทำให้ได้ตัวเลขกลม ๆ คร่าว ๆ ของแต่ละฐานเงินเดือนที่ต้องเสียภาษี ดังนี้

 

ฐานเงินเดือน

เสียภาษี

15,000 บาท ยังได้รับการยกเว้นอยู่ในปีภาษี 2562
20,000 บาท ยังได้รับการยกเว้นอยู่ในปีภาษี 2562
30,000 บาท 2,500 – 3,000 บาท
40,000 บาท 8,500 – 10,500 บาท
50,000 บาท 20,500 – 22,500 บาท
60,000 บาท 35,000 – 38,000 บาท
70,000 บาท 53,100 – 56,000 บาท
80,000 บาท 73,500 – 77,000 บาท
90,000 บาท 97,000 – 101,000 บาท
100,000 บาท 122,500 – 125,000 บาท

 

 

ขั้นตอนที่ 3 ) เริ่มคำนวณ

วิธีคำนวณ ก็แค่บวกลบเลขตามตารางด้านล่างนี้ที่ให้ไว้ แค่คุณเปลี่ยนตัวเลขสีแดงที่ผู้เขียนยกตัวอย่างเอาไว้

ขั้น เงินได้สุทธิ (บาท) เงินได้ในขั้นนี้ อัตราภาษี (%) จำนวนภาษีที่เสียในขั้นนี้ ภาษีสะสมของขั้น เงินได้ของคุณ เงินได้ที่เหลือไปคำนวณ ภาษีที่ต้องเสีย
  ช่องที่ 1 ช่องที่ 2 ช่องที่ 3 ช่องที่ 4 ช่องที่ 5 เลขตั้งต้น เลขตั้งต้น – เงินได้ในช่องนี้ ถ้าตั้งลบแล้วเกินช่องที่ 2 ก็เอาช่องที่ 4 มากรอกไว้
                ถ้าลบแล้วไม่เกินช่องที่ 2 ให้เอาตัวเลขที่ลบได้ คูณด้วยอั้นตราภาษีในขั้นนั้น

 

แต่หากท่านใดเงินเดือนมากกว่านี้ ลองใช้วิธีการคำนวณภาษีตามข้อมูลด้านล่างนี้ดูครับ  ยกตัวอย่างเช่น มีเงินได้หลังหักค่าลดหย่อนทั้งหมดแล้ว 1,739,020 บาท มีวิธีคิดการเสียภาษีเงินได้ดังนี้

ขั้น เงินได้สุทธิ (บาท) เงินได้ในขั้นนี้ อัตราภาษี (%) จำนวนภาษีที่เสียในขั้นนี้ ภาษีสะสมของขั้น เงินได้ของคุณ เงินได้ที่เหลือไปคำนวณ ภาษีที่ต้องเสีย
1 0 – 150,000 150,000 5 ได้รับยกเว้น 0 1,739,020 1,589,020 0
2 150,001 – 300,000 150,000 5 7,500 7,500 1,589,020 1,439,020 7,500
3 300,001 – 500,000 200,000 10 20,000 27,500 1,439,020 1,239,020 20,000
4 500,001 – 750,000 250,000 15 37,500 65,000 1,239,020 989,020 37,500
5 750,001– 1,000,000 250,000 20 50,000 115,000 989,020 739,020 50,000
6 1,000,001– 2,000,000 1,000,000 25 250,000 365,000 739,020 0 184,755
7 2,000,001– 5,000,000 3,000,000 30 900,000 1,265,000 0 0 0
8 5,000,001 ขึ้นไป 35 0

 

รวมแล้วหากคุณมีรายได้ดังตัวอย่างที่ยกมานี้ จะต้องเสียภาษีทั้งหมด 6 ขั้น

ภาษีจากขั้น 5 % ต้องจ่าย 7,500 บาท

ภาษีจากขั้น 10 % ต้องจ่าย 20,000 บาท

ภาษีจากขั้น 15 % ต้องจ่าย 37,500 บาท

ภาษีจากขั้น 20 % ต้องจ่าย 50,000 บาท

ภาษีจากขั้น 25 % ต้องจ่าย 184,755 บาท

รวมการเสียภาษีครั้งนี้คือ 299,755 บาท

 

ขั้นตอนที่ 4 ) เข้าไปยื่นภาษีในเว็บสรรพากร

ง่ายมาก ก่อนยื่นภาษี ควรทำตาราง Excel ไว้ก่อน และเตรียมเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับรายลับและการหักภาษีในปีภาษีนั้นมาเตรียมไว้ และเข้าไปที่เว็บไซต์ rdserver.rd.go.th แล้วเลือกไปที่ “ยื่นแบบออนไลน์” แล้วเลือกไปที่ “ลงทะเบียน” หรือ “ลืมพาสเวิร์ด

โดยอุปกรณ์ที่รองรับการเข้าเว็บไซต์นี้ ก็มีทั้งโทรศัพท์มือถือ แทบเลต หรือโน้ตบุ๊ก ผ่านช่องทาง internet explorer, google chrome, firefox

เริ่มกรอกข้อมูลต่าง ๆ โดยมีเอกสารสำคัญ ดังนี้
  • โดยส่วนใหญ่ต้องใช้เลขประจำตัวผู้เสียภาษีของบริษัทที่จ่ายค่าจ้างให้แก่เรา โดยเลือกผู้ที่จ่ายเงินสูงสุด
  • หากให้เช่าบ้านต้องมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ของผู้เช่า
  • ขอหนังสือรับรองเบี้ยประกันชีวิต / เบี้ยกระกันสุขภาพ ของตนเอง และคุณพ่อคุณแม่
  • เลขประจำตัวของบิดา มารดา คู่สมรส และบุตร ที่จะนำมาใช้ลดหย่อน
  • ข้อมูลตัวเลขเงินได้ และ ยอดหักประกันสังคม
  • ยอดหักกองทุกต่าง ๆ

ซึ่งหากยังไม่อยากกดยื่นภาษี จะต้อง Save ไว้ก่อนแล้วค่อยมาแก้ทีหลังได้ ขอแนะนำให้เข้าไปกรอกในช่วงเวลาที่คุณเตรียมเอกสารไว้เรียบร้อยแล้ว และค่อยกด Save เพื่อยื่นทีเดียว และขอคืนเงินภาษี เพื่อที่จะได้รับเงินคืนภาษีได้ถูกต้องและไว โดยปี 2562 นี้จะได้รับเป็นเช็ค เพราะฉะนั้นที่อยู่ที่กรอกไว้ตั้งแต่หน้าแรกต้องเป๊ะ ห้ามผิดแม้แต่จุดเดียว เดี๋ยวจะส่งผิดที่อยู่

เรื่องการยื่นภาษีนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย แค่คุณมีรายได้ ก็ยื่นได้แล้ว หากทำไม่เป็นก็ฝึกยื่นไว้ อีกหน่อยหากเป็นมหาเศรษฐี 100 ล้าน จะได้รู้ว่ามีกองทุนหรือประกันชีวิตแบบไหนให้ทำทันลดหย่อนบ้าง สำหรับวันนี้หากคุณยังไม่มั่นใจเรื่องการยื่นภาษี ก็ให้บริษัทยื่นให้ หรือลองสอบถามเพื่อน ๆ นะคะ

อ่านเพิ่มเติม :

Previous article20 ม.ค.63 เตรียมพบกับ 2.2 Cashback Sale ได้เงินคืนทุกวัน 200% Coins ที่ Shopee
Next articleเจ้าของ Tesco Lotus กำลังจะเปลี่ยนมือในปี 2563 จริงหรือเปล่า?