อาการแบบไหน มายืมเงินแล้วไม่ควรให้ยืม!
ทุกครั้งที่ตัวคุณยังไม่พร้อม อย่าเพิ่งให้เพื่อนยืมเงิน เพราะถ้ายืมแล้วต้องมาเป็นทุกข์ ด้วยความเป็นห่วงเงินว่าจะได้คืนหรือไม่ได้คืน ก็คงจะนอนไม่หลับ ยาหมอที่ไหนก็รักษาไม่หาย เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ไม่เข้าใครออกใคร บางคนโดนยืมไป 5 บาท ก็นั่งหัวใจสลายไม่ได้คืน บางคนถูกลูกน้องยืมไป 100,000 กว่าบาท ก็มานั่งนับเวลารอเมื่อไหร่จะทยอยคืนหมด ทีนี้ลองมาดูสิว่า อาการที่เพื่อนยืมเงินไปแล้วแบบไหน ที่ทำให้คุณหัวใจฟีบสุด ๆ
7 อาการ เพื่อนแบบนี้ไม่น่าให้ยืมเงิน!
กินหรู อยู่แพง
เพื่อนประเภทนี้ มีจะเป็นคนที่ไม่รู้จักการจัดการเงิน และเลือกที่จะมี Life Style หรูหรา ใช้จ่ายเกินตัว ในบัญชีรับรองว่ามีหนี้เกินตัวจนแทบจะเสียศูนย์แล้ว ได้เงิน หรือ ทรัพย์สินมามากเท่าไหร่ก็จะหมดไปกับค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยในชีวิต แก้ไขกันไม่ทัน
ยืมบ่อย
ยืมแล้วคืน แต่ว่ามายืมบ่อยมาก ไอ้เราก็ไม่ใช่ธนาคารที่จะมีพร้อมให้กู้ตลอด คืนเสร็จ อีกแปบนึงก็มายืมใหม่ ทำให้เสียความรู้สึกกันเปล่า ๆ เขาต้องเจอจุดเปลี่ยนที่ทำให้เปลี่ยนนิสัยบ้างแล้ว น่าเสียดายบางคนเราเตือนแล้วก็ไม่ฟัง
ยืมแล้วต้องให้ทวง
จะมีเพื่อนประเภทหนึ่ง ยืมแล้วหายเงียบไปเลย น่าเบื่อสุด ๆ จะทวงก็อาย หาคำทวงไมถูก รู้อย่างนี้ตอนแรกไม่น่าให้ยืมเลย บอกว่าจะคืนสิ้นเดือน ผ่านมาหลายเดือนแล้วก็ไม่มีทีท่าว่าจะคืน
ทวงแล้วผิดอีก
หรือเพราะเราไปทวงมากเกินไป? เพื่อนฟังแล้วอาจจะรู้สึกปวดใจ เอาคุณไปพูดไม่ได้ ตามมาด่าคุณด้วย! อ้าว! ทำอะไรผิดล่ะเนี่ยะ.. ใครเคยเจอเพื่อนแบบนี้ยกมือหน่อย
อ้างสารพัด
ตอนมายืม ก็บอกเหตุผลสารพัด ไม่ว่าจะเป็น เรื่องส่วนตัว หรือ เรื่องครอบครัว บางคนก็มีเหตุผลจำเป็นจริง ๆ บางคนก็อ้าง ไม่รู้ว่าอันไหนจริงหรือไม่จริง พอเรามารู้หลังก็เสียความรู้สึก เหมือนถูกหลอก
ให้ยืมแล้วเราต้องมาออกค่าธรรมเนียม
ถือว่าคุณคิดเล็กคิดน้อยมาก ถ้าจะให้ยืมแล้ว ยังมาคิดเรื่องค่าธรรมเนียม 25 บาท (โอนผ่านแอปพลิเคชั่น) 50 บาท (โอนผ่านเคาน์เตอร์คนละธนาคารคนละพื้นที๋) แต่ถ้ายืมบ่อย ๆ ปีละมากกว่า 10 ครั้ง ก็น่าคิด!.. (น่าคิดตั้งแต่ยืมบ่อยขนาดนี้ ยังให้ยืมอีกหรอ?)
คืนไม่ครบ
ยืมไปก้อนนึง แล้วบอกว่าจะทยอยคืน ถ้าคืนจนครบ ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่หากยืมเป็น 100,000 แล้วคืนมา 10,000 เดียว จากนั้นก็เงียบหายไปเลย.. แบบนี้ปวดหัว
Trick ปฏิเสธ เมื่อมีคนมาขอยืมเงิน
- แนะนำสินเชื่อส่วนบุคคล / สินเชื่อรถแลกเงิน
คือหากมายืมเงินเป็นหลักแสน (ต่อให้ไม่ถึงแสน สัก 60,000 + ) ก็ควรไปขอสินเชื่อส่วนบุคคลกับธนาคารเพื่อไม่ให้เสียเกียรติเสียศักดิ์ศรีกันเถิดค่ะ ถ้าต้องยืมคนอื่นเป็น 100,000 โดยที่ไม่คิดว่าตัวเองจะมีเงินมาจ่ายคืนเมื่อไหร่ ก็ยืมเงินออกมาจากเครดิตตัวเองดีกว่า
- แนะนำให้กู้จากบริษัท
บริษัทใหญ่ ๆ (มหาชน) มักจะมีให้ลูกจ้าง เอาเงินเดือนตัวเองมาใช้ก่อนได้ โดยหักจ่ายจากเงินเดือน เดือนถัดไป ยกตัวอย่างเช่น กู้ 30,000 บาท ต้องการปิดหนี้ใน 3 เดือน ในแต่ละเดือนก็จะถูกหักไป 10,000 บาท และครบ 3 เดือนแล้วคุณก็เป็นอิสระ วิธีนี้คุณไม่ต้องเสียดอกเบี้ยด้วย แต่ว่าบางคนอาย ไม่กล้าไปสอบถามกับ HR
- แนะนำให้ไปกู้ออมสิน แล้วเซ็นต์ MOU กับบริษัท
หากคนที่มาขอยืมเงิน เป็นเพื่อนร่วมงาน ที่คุณก็อยากให้ยืม แต่ว่าอาจจะกระทบการเงิน และไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น ก็แนะนำให้เพื่อนไปศึกษา สินเชื่อของธนาคารออมสิน ตัวนี้ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ไม่ต้องมีคนค้ำ เพียงแค่เจ้าตัวต้องไปทำสัญญา MOU กับบริษัท ด้วยวิธีดังนี้ 1) ไปติดต่อกับธนาคารออมสินก่อนว่าจะขอสินเชื่อตัวนี้ 2) เอาเอกสารไปยื่นกับฝ่ายบุคคล (ควรจะเป็นหัวหน้า HR ที่รู้เรื่องพวกนี้) และยื่นกู้กับออมสินโดยยินยอมให้บริษัทหักเงินเดือนเข้าออมสินทุกเดือน ๆ จนกว่าจะส่งครบ
สมัครบัตร KTC ดูหนัง iFlix ฟรี 1 ปี ผ่านเว็บโปรโมชั่นส์เท่านั้น
เงินไม่กี่บาท อาจทำให้เสียเพื่อนไปเลย ตอนไม่มีปัญหาเรื่องเงินก็ไม่เคยเจอเรื่องผิดความสัมพันธ์แบบนี้ พอเพื่อนมาทำแบบนี้กับคุณ คุณก็อาจจะพารานอยด์ไปหลายวัน.. อย่างไรก็ดี เรื่องยืมเงิน หากตัวคุณเองยังไม่พร้อม ก็อย่าเพิ่งให้คนอื่นยืมเลย หาทางออกอื่น ๆ แนะนำไปก่อน และให้เหตุผลว่าคุณเองก็จำเป็นต้องใช้เงินเหมือนกัน