เงินกู้นอกระบบ กับสินเชื่อสำหรับคนที่มีรายได้น้อย
สวัสดีค่ะ วันนี้แอดมินมีเรื่องเงินๆ ทองๆ มาเล่าผ่านเว็บไซต์ Promotions ให้ฟังกันสักครั้ง เป็นประสบการณ์เงินกู้นอกระบบที่เคยเจอ (คนหนีหนี้) มากับตัว อย่าเพิ่งตกใจไป แอดมินไม่ได้เป็นคนกู้นะคะ แค่ไปกินข้าวที่ร้านอาหารในหมู่บ้าน แล้วเจอคนวิ่งหนีเจ้าหนี้เท่านั้นเอง
รายได้น้อย กับ เงินกู้นอกระบบ
เรื่องมีอยู่ว่า ชาวบ้านที่มีรายได้น้อย หาเช้ากินค่ำ ไปทำเรื่องกู้เงินนอกระบบไว้กับพวกนามบัตรเบอร์โทรที่สอดไว้ตามบ้าน แล้วทำสัญญาโดยมีคนค้ำ ซึ่งพอไม่มีเงินจ่ายคืนตามสัญญา ก็เกิดการทวงหนี้แบบโหดๆ อย่างที่เห็น เหตุการณ์แบบนี้คงจะสงบยาก เพราะว่าบรรดาคนปล่อยกู้และคนให้กู้ก็มีเพียบ เศรษฐกิจแบบนี้บางคนหมุนเงินไม่ทันจริงๆ
ข่าวล่าสุดเงินกู้นอกระบบเตรียมหงาย เมื่อค่ายใหญ่อย่างเครือซีพี เตรียมปล่อยกู้นอกระบบให้กับลูกค้าของซีพีเอง ซึ่งข่าวนี้เพิ่งเผยแพร่ทางหนังสือพิมพ์หน้าธุรกิจ และเว็บไซต์ โพสต์ทูเดย์ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2560
มันมีคำศัพท์เพิ่มเติมมาคือ นาโนไฟแนนซ์ (Nano-Finance) ซึ่งเป็นเงินกู้ในระบบ ที่ดอกเบี้ยยังอยู่ในกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง มีใบรับรอง ลักษณะของผู้ที่ต้องกู้กับนาโนไฟแนนซ์ คือ
- มีเงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาท ซึ่งธนาคารไม่ค่อยให้ผ่านบัตรเครดิต
- มีรายได้ไม่แน่นอน บางธนาคารกลับเรื่องความมั่นคงนี้จึงไม่ให้กู้
- อาจมี หรือ ไม่มี ผู้ค้ำ จึงต้องใช้สิ่งของมีค่ามาค้ำประกัน
- ลูกหนี้ หรือ ผู้กู้ มีโอกาสชำระเงินต้นคืนไม่แน่นอน ไม่สามารถนำเงินมาคืนตามรอบการจ่ายได้
ซึ่งการกู้แบบนี้ได้แก่ ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ, สินเชื่อ รถแลกเงิน ฯลฯ ที่อาจจะนำสิ่งของมีค่าอย่างรถยนต์ รถจักรยานยนต์ มาค้ำ
ลูกหนี้ส่วนใหญ่จึงเป็นพ่อค้าแม่ค้า หาบเร่ ทั่วไป ที่อาจจะหาที่พึ่งพาไม่ได้จริงๆ พูดแล้วก็นึกถึงบรรยากาศชาวบ้านยุคเก่าๆ ที่ปล่อยเงินกู้ เล่นแชร์
ที่ผ่านมา บริษัทที่ขอจดทะเบียน ในลักษณะ นาโนไฟแนนซ์ มีมาแล้วรวม 23 แห่ง ซึ่งบริษัทตัวอย่างที่รู้จักกัน คือ บริษัทเงินสดทันใจ (ศรีสวัสดิ์เงินติดล้อ), บริษัทไทยแอช แคปปิตอล
และไม่น่าเชื่อว่าเครือ True ก็เข้าร่วมปล่อยกู้ในลักษณะ นาโนไฟแนนซ์ เช่นเดียวกัน โดยมอบบัตร Truecard ให้กับผู้ใช้ True ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ข้อเสียคือหากคนสูงอายุที่บ้านรับไป รูดซื้อสินค้าโดยไม่ได้ศึกษารายละเอียดดอกเบี้ย หรือไม่ได้ตั้งใจเปิดบัตรเงินกู้นี้อีกใบ ก็ทำให้ต้องเสียเงินจ่ายดอกเบี้ยอย่างไม่คาดคิด
ข่าวที่เตรียมสะเทือนวงการ เมื่อ ซีพี บริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีเงินหมุนเวียนอยู่ในระบบสูง กำลังจะกระโดดลงมาทำธุรกิจปล่อยเงินกู้แบบ นาโนไฟแนนซ์ นี้อย่างเต็มตัว เพิ่งได้รับใบอนุญาตไม่นานซึ่งคาดว่าจะออกมาให้กับผู้ใช้เซเว่นอีเลฟเว่น ใช้บัตรวีซ่า หรือ บัตรเครดิต ของเซเว่นเอง มาใช้ซื้อสินค้าและผ่อนสินค้ากับเซเว่นได้ด้วย ซึ่งช่วงนี้บางสาขาของเซเว่นให้ใช้บัตรวีซ่าผ่านเซเว่นได้แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นในร้านสะดวกซื้อยอดฮิตนี้มาก่อน
การคาดเดาของผู้ใช้งาน เงินกู้กับเซเว่น ในอนาคตที่อาจจะมี ได้แก่
- ในอนาคต ลูกค้าเซเว่นอาจจะต้องมี 7-11 ID หรือต้องพก Smart Purse ไว้ซื้อสินค้ากับเซเว่นอย่างจริงจังมากกว่านี้ (ไม่เป็นลูกค้า walk in)
- ผ่อนสินค้าในเซเว่น ผ่านบัตร Smart Purse ได้
- ผ่อนสินค้าอุปโภค บริโภค ของ Shop at 24 ผ่านบัตร Smart Purse ได้
- ต้องจับตาดูว่าซีพีจะให้วงเงินใน Smart Purse เทียบเท่ากับบัตรเครดิต สูงเฉียด 5 เท่าของรายได้หรือไม่
- อาจจะมีโปรโมชั่นผ่อนตั๋วเครื่องบิน่ผ่าน Smart Purse ได้ ได้หรือไม่
- รูดเงินสดจาก 7-11 id ได้อย่างแน่นอน
- ดอกเบี้ยเงินกู้น่าจะอยู่ระหว่าง 20-28% ต่อปี
- อาจจะยกเลิกระบบสแตมป์เซเว่น มาเป็น Cash back ให้กับลูกค้าเซเว่น
แม้ว่า เงินกู้ นาโนไฟแนนซ์ ยังโหดน้อยกว่าเงินกู้นอกระบบก็จริง แต่หากใครจำเป็นจริงๆ ก็ต้องกู้ และต้องรีบหาเงินมาปิดยอด ไม่อย่างนั้นแล้วจะเสียดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างสูง และควรศึกษารายละเอียดของผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท ใช้เวลาศึกษาสักหน่อย เพื่อจะได้ไม่เป็นหนี้นานนะคะ