การกู้เงินมาปิดหนี้สินบัตรเครดิต นั้นเป็นอะไรที่นิยมมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะผู้ที่มีบัตรเครดิตหลายๆ ใบและต้องมานั่งจ่ายขั้นต่ำกันอยู่ทุกเดือนทำให้หนี้บาน และ ดอกเบี้ยบวม ส่งผลที่ทำให้ไม่สามารถปิดหนี้บัตรเครดิตได้ ซึ่งหากมาค้นข้อมูลของ ธปท หรือ ธนาคารแห่งประเทศไทย จะพบว่าหนี้คงค้างของคนไทยกับบัตรเครดิต ซึ่งไม่สามารถชำระหนี้บัตรเครดิต 3 เดือนขึ้นไป มีปริมาณที่ค่อนข้างสูง ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีดอกเบี้ยมากกว่า 14% ขึ้นไปต่อปี และอาจมีดอกเบี้ยรวมมากกว่าเงินต้นซะอีก
การปิดหนี้บัตรเครดิตด้วยสินเชื่อ ผู้ที่ปิดหนี้ไปแล้ว จะต้องสัญญากับตัวเองว่า “ฉันจะไม่ก่อหนี้อีก” มิเช่นนั้นการปิดหนี้ไป และใช้วงเงินบัตรเครดิตเพิ่มเติมเข้าไปอีกจะทำให้คุณมีหนี้เพิ่มไม่รู้จักจบสิ้น
ดังนั้นหลายคนจึงค้นหาวิธี “ปิดหนี้” หรือ “โอนหนี้” บัตรเครดิต กันค่อนข้างมาก และหนึ่งในวิธีการที่จะโอนหนี้บัตรเครดิต หรือปิดบัตรเครดิตไปเลยก็คือ การ หาสินเชื่อปิดหนี้บัตรเครดิต ที่สามารถให้กู้ได้ แม้ว่าจะมี ภาระหนี้สินค่อนข้างสูง และวิธีนี้เรียกว่า “debt consolidation” ที่ไม่ใช่เฉพาะคนไทยเท่านั้นที่นิยมวิธีการนี้ แต่ในต่างประเทศด้วย และเพื่อเป็นการนำข้อมูลในต่างประเทศ รวมถึงเทคนิค ข้อเท็จจริงมาให้คนไทยได้รับรู้ ในบทความนี้ เราจะพูดถึง 3 ประเด็นด้วยกันคือ
- การกู้เงินมาปิดบัตรเครดิต ด้วยวิธีที่ดีที่สุด ธนาคารที่ดีที่สุด
- ที่ปรึกษาทางด้านการปิดหนี้บัตรที่ดี และ ที่ควรหนีห่างให้ไกล
- จุดเสี่ยง ในการปิดหนี้บัตรเครดิต
การกู้เงินมาปิดบัตรเครดิต และ วิธีที่ดีที่สุด
- หาเงินกู้ที่มีดอกเบี้ยต่ำกว่า – การที่หาเงินกู้ โดยเฉพาะ Bank และ Non-bank เพื่อทำการหาสินเชื่อบุคคล ฯลฯ ที่มีดอกเบี้ยต่ำกว่า เป็นสิ่งที่ควรมองตั้งแต่ต้น เพราะดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าจะทำให้คุณติดหนี้น้อยลง เป็นปีๆ เลยทีเดียว สิ่งที่คุณควรทำก็คือ หาแหล่งเงินกู้ที่ถูกกฎหมาย และมีดอกเบี้ยต่ำกว่าในเบื้องต้น
- หาเงินกู้ที่ให้เป็นก้อน และจ่ายทีเดียว – สมมติว่าคุณมีหนี้บัตรเครดิต 3 ใบ แต่หาเงินกู้ที่สามารถมาปิดได้แค่ 2 ใบ อันนี้ไม่แนะนำ เพราะทำให้คุณเหลือหนี้สองที่ ที่ต้องจ่ายก็คือ หากคุณปิด 2 ใบ ไปแล้ว ยังเหลืออีก 1 ใบ และ ต้องผ่อนชำระเงินกู้อีกก้อน ก็คือเหลือ 2 ที่ แทนที่จะเป็น ที่เดียว
- จ่ายหนี้บัตร ทำให้ คะแนนบูโร สูงขึ้น – เมื่อคุณติดหนี้บัตรเครดิต หลายๆใบ คะแนนเครดิตของคุณจะลดฮวบฮาบ การที่คุณไปปิดหนี้บัตรเครดิตได้ทั้งหมด โดยการใช้เงินกู้ จะทำให้คะแนนเครดิตของคุณกระโดดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง และ ในต่างประเทศ คนที่ใช้ สินเชื่อบุคคล มาปิดหนี้บัตรเครดิต จะเห็นคะแนน Bureau ของตัวเองกระโดดขึ้นมาประมาณ 20 คะแนน
วิธีที่ดีที่สุด
สินเชื่อส่วนบุคคล – สินเชื่อบุคคล ยังคงเป็นสินเชื่อที่ได้รับความนิยม เพราะเป็นสินเชื่อแบบอเนกประสงค์ ที่สามารถนำเงินออกมาปิดหนี้บัตรเครดิตในจำนวนหลายๆใบได้ และมีดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า ดังนั้นเราจะไม่ค่อยเห็นคน ไปเอาเงินออกจาก บัตรกดเงินสดมาปิดหนี้บัตรเครดิตกัน และ สินเชื่อบุคคลเป็นอะไรที่ใช้เวลาน้อยที่สุด และค่อนข้างทันต่อดอกเบี้ยที่กำลังเดินอยู่ และนี่คือ สินเชื่อบุคคลที่แนะนำให้ทำ ตามฐานเงินเดือน
- Citi Personal Loan – สินเชื่อ ซิตี้ (ฐานเงินเดือน 30,000+)
- สินเชื่อ กสิกรไทย สำหรับปิดหนี้บัตร (ฐานเงินเดือน 15,000)
- สินเชื่อ CIMB ปิดหนี้บัตร (ฐานเงินเดือน 15,000)
- สินเชื่อ UOB ปิดบัตรเครดิต (ฐานเงินเดือน 15,000)
- สินเชื่อ ธนาคารออมสิน ปิดหนี้บัตร (ฐานเงินเดือน 15,000)
สินเชื่อบ้าน Refinance – สินเชื่อบ้านเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะ ช่วงก่อนปี 2008 เพราะเป็นอะไรที่ง่ายที่สุด ซึ่งมีข้อดีคือ ดอกเบี้ยต่ำกว่า สินเชื่อบุคคล เพราะธนาคารมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่ก็มีข้อเสียตรงที่หากว่าคุณพลาด คุณเสียบ้านไปเลย และก็มีการผ่อนจ่ายที่ค่อนข้างยาวกว่า และนี่คือข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อบ้านที่มี
- เปรียบเทียบสินเชื่อบ้าน ธนาคารไหนดี?
- TMB สินเชื่อบ้าน Refinance ดอกเบี้ย 3.99% 3 ปีแรก
- สินเชื่อบ้าน CIMB
สินเชื่อรถยนต์ – จริงๆ แล้วสินเชื่อรถยนต์ จะเป็นอะไรที่แนะนำมากกว่าสินเชื่อบ้าน แต่ติดอยู่อย่างเดียวก็คือ ดอกเบี้ยที่โดยมากแล้วจะสูงกว่าดอกเบี้ยบ้าน และนี่คือสิ่งที่เราแนะนำ
ที่ปรึกษาเกี่ยวกับหนี้ที่ดี และ สิ่งที่ควรอยู่ให้ห่าง
หลายคนคงเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแคมเปญของ ธปท เกี่ยวกับการควบคุมหนี้บัตรเครดิต และสินเชื่อ ที่จะมีผลในวันที่ 1 กันยายน 2560 นี้ จริงๆแล้ว มีแคมเปญอีกตัวที่ ธปท ร่วมกับ SAM นั่นก็คือ clinic แก้หนี้ ที่หลายคนเข้าไปสมัครแล้วไม่ผ่าน แต่ก็มีผ่านบ้าง คือแคมเปญแบบนี้ เป็นแคมเปญที่ควรเข้าไปร่วม เพราะจะเป็นการประณีประนอมหนี้สินของผู้ที่มีหนี้สินจากบัตรเครดิต ฯลฯ หลายๆ แห่ง เป็นโครงการที่ไว้ใจได้เพราะเริ่มต้นนโยบายโดย ธปท เป็นการช่วยให้ประชาชนผู้มีหนี้สินเยอะ ให้มาเคลียร์หนี้กับ SAM
สำหรับอีกด้านหนึ่งที่ไม่ควรไปแตะต้องเลยก็คือ “เงินกู้นอกระบบ” และเว็บไซด์ ที่บอกว่าสามารถปิดหนี้บัตรเครดิตให้ได้ เพราะนั่นเป็นหนึ่งในหนี้นอกระบบเช่นเดียวกัน โดยที่ เราได้เห็นในข่าวเกือบทุกวันว่าการมีหนี้นอกระบบมันแย่อย่างไร มีการทวงหนี้ที่แสนโหด และอาจถึงแก่ชีวิตและทรัพย์สินได้ ขอเตือนตรงนี้เลย – ถ้าคุณมีหนี้เยอะ อย่าคิดไปกู้หนี้นอกระบบเพื่อแก้ปัญหา เพราะมันจะทำให้ปัญหาของคุณใหญ่ขึ้นอีกหลายเท่าตัว
ความเสี่ยง จากการปิดหนี้บัตรเครดิต
แน่นอนว่า การปิดหนี้บัตรเครดิต ด้วยการขอสินเชื่อ หรือโอนหนี้มาปิดที่เดียวนั้น มันไม่ได้ มีข้อดีทั้งหมดและเสมอไป และปัญหาและความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการปิดหนี้บัตรเครดิตได้ทั้งหมด นั่นก็คือนิสัยของผู้ใช้เงินนั่นแหละ นั่นหมายถึงว่า เมื่อคุณปิดหนี้บัตรเครดิตได้ทั้งหมดแล้ว การที่คุณมีหนี้ตั้งแต่ต้น หากไม่ใช่เกี่ยวกับ การเจ็บป่วย ฯลฯ หรือจำเป็นจริงๆ แปลว่านิสัยการใช้เงินของคุณนั้น เป็นคนใช้เงินอนาคตแบบไม่คิดชีวิต
เมื่อคุณปิดหนี้บัตรได้ทั้งหมด คุณจะเหลือวงเงินกลับเข้ามาเป็น 100% เหมือนเดิม และสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นก็คือ คุณก็จะใช้วงเงินเหล่านั้น เพิ่มเข้าไปอีก ทำให้มีหนี้บานเบอะมากกว่าเดิม
การปิดหนี้บัตรเครดิตด้วยสินเชื่อ ผู้ที่ปิดหนี้ไปแล้ว จะต้องสัญญากับตัวเองว่า “ฉันจะไม่ก่อหนี้อีก” มิเช่นนั้นการปิดหนี้ไป และใช้วงเงินบัตรเครดิตเพิ่มเติมเข้าไปอีกจะทำให้คุณมีหนี้เพิ่มไม่รู้จักจบสิ้น
บางธนาคารถึงขั้น ให้คุณ ตัดบัตรเครดิตต่อหน้าเจ้าหน้าที่ แต่สุดท้าย คนเหล่านั้น ก็จะกลับไปที่บ้าน และแจ้งบัตรเครดิตหาย เพื่อได้รับบัตรใหม่อีกวันยังค่ำ
การติดหนี้เยอะๆ ไม่ได้เกิดขึ้นจาก ระบบ ดอกเบี้ยที่โหด แบรนด์ธนาคาร แต่มันอยู่ที่การตัดสินใจของเจ้าของบัญชีเอง ดังนั้น เมื่อคนติดหนี้เยอะๆ แล้ว ก็ไม่ควรไปโทษธนาคาร โทษระบบ โทษอัตราดอกเบี้ย ฯลฯ ควรโทษที่ตัวเองมากกว่า