ปีใหม่นี้ลองไปล่าแสงเหนือ ที่ไหนกันดี?

ปีใหม่ อากาศเย็นๆ พร้อม แสงเหนือ ไปที่ไหนดี

เชื่อเลยว่าทริปในฝันของใครหลายๆ และสิ่งที่นักท่องเที่ยวต้องการพบเห็นเวลาเดินทางไปท่องเที่ยวมากที่สุด คงหนีไม่พ้นความสวยงามจากท้องฟ้ากับ การตะลุยตามล่าหาแสงเหนือที่เส้นสุดขอบฟ้า ที่หลายคนคงเคยเห็นจากรูปภาพว่ามีความสวยงามเป็นอย่างมากจนอยากเดินทางไปสัมผัสกันให้ได้สักครั้งแต่จะมีประเทศไหนที่เราสามารถไปล่าแสงเหนือกันได้บ้าง อีกทั้งยังเป็นประเทศที่เราสามารถทำประกันเดินทาง พร้อมวีซ่าในการเข้าประเทศได้แบบง่าย ๆ บ้างนั้นไปดู

แสงเหนือ หรือ Aurora คือ ปรากฏการณ์บนท้องฟ้า ที่สามารถพบเห็นได้ในซีกโลกเหนือ Aurora Borealis (แสงเหนือ) และ ซีกโลกใต้ Aurora Australis (แสงใต้) เกิดมาจากอนุภาคของประจุไฟฟ้าที่ถูกปล่อยออกมาจากการปะทุของดวงอาทิตย์ ก่อเป็นพายุสุริยะ ที่จะทำการพุ่งมายังโลก และ กระทบกับสนามแม่เหล็กบนโลกของเรา ทำให้อนุภาคเหล่านั้นไม่สามารถผ่านเข้ามาในชั้นบรรยากาศของโลกเราได้ แต่หากมีกำลังที่แรงมาก ๆ เมื่อไหลเข้ามายังชั้นบรรยากาศบนโลกของเราได้อนุภาคเหล่านั้นจะทำปฏิกิริยากับก๊าซในชั้นบรรยากาศ จนเกิดเป็นแสงสีที่เราได้พบเห็นและเรียกแสงเหล่านี้ว่า แสงเหนือ หรือ แสงใต้นั่นเอง สีที่เราจะพบเห็นได้บิ่ยคือ สีเขียว สีม่วงแดง และ สีแดง นั่นเอง

แสงเหนือ จะปรากฏอยู่ ในแถบทางตอนเหนือของประเทศแถบสแกนดิเนเวีย และมีอยู่ 5 ประเทศที่จะสามารถมองเห็นแสงเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน คือ…

1.ฟินแลนด์

พื้นที่ภูมิประเทศของฟินแลนด์จะเป็น ทะเลสาป ป่าไม้ มีทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็นได้อย่างกว้างไกล และค่อนข้างปรอดโปร่ง เป็นสถานที่สุดพิเศษในการมองเห็นแสงเหนือ โดยเฉพาะในเขตของหมู่บ้าน Luosto เขต Lapland ทึ่ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแซนตาคลอสนั่นเอง

2.สวีเดน

หมู่บ้าน Abisko ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล ในประเทศสวีเดน เป็นอีกจุดที่มีนักล่าแสงเหนือไปเยือนเป็นจำนวนมาก ท่องฟ้าในย่านั้นมีความปลอดโปร่ง ไม่ค่อยมีก้อนเมฆ เหมาะแก่การชมแสงเหนือเป็นอย่างยิ่ง นอกจากการล่าแสงเหนือแล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าตื่นตาตื่นใจให้เราได้ไปสัมผัสอีกเพียบ รวมไปถึงโรงแรมน้ำแข็งแห่งแรกของโลกอีกด้วย

3.นอร์เวย์

จุดชมแสงเหนือที่สวยที่สุด โดยเฉพาะจุดชมแสงเหนือ ที่ตั้งอยู่ทางเหนือที่เมือง Tromso เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ และสามารถเห็นแสงเหนือได้อย่างชัดเจน ในช่วง เดือนกันยายนถึงเดือนมีนาคมกันเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีกิจกรรมอื่นให้เราได้ทำระหว่างรอชมแสงเหนือกันอีกด้วย

4.ไอซ์แลนด์

จุดชมแสงเหนืออีกหนึ่งจุดที่สามารถชมแสงเหนือได้อย่างชัดเจน คือที่ Reykjavil ที่เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ และเป็นเมืองหลวงของประเทศอีกด้วย ซึ่งแสงเหนือของที่นี่นั้นเราจะสามารถพบเห็นได้ตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงเดือนกันยายนเป็นต้นไป อีกทั้งยังมีอากาศที่ไม่หนาวจนเกินไปทำให้เราสามารภเดินทางไปท่องเที่ยวชมความสวยงามบริเวณอื่น ๆ ได้อีกด้วย

5.กรีนแลนด์

ที่นี่มีแสงเหนือที่สวยไม่แพ้ประเทศอื่นๆ แต่ก็เป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวที่ไม่มากเท่าไหร่นัก ทำให้มีนักท่องเที่ยวและประชากรที่ไม่ค่อยหนาแน่น  ภูมิประเทศมีความเป็นธรรมชาติสูง สามารถไปสัมผัสอากาศหนาว หิมะ และ กิจกรรมสุดสนุกพร้อมกับชมความสวยงามของแสงเหนือกัน

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายประเทศที่เราสามารถไปชมความสวยงามของแสงเหนือ และ แสงใต้ได้อย่างเช่น แคนาดา, รัสเซีย, สก็อตแลนด์, เดนมาร์ก เป็นต้นอย่างไรก็ตาม เดินทางออกต่างประเทศทุกครั้งอย่าลืมทำประกันเดินทางให้ติดไว้เป็นนิสัย เผื่อเกิดเหตุการณ์ใด ๆ ขึ้นจะได้มีคนคอยคุ้มครอง ซึ่งการเลือกซื้อประกันเดินทางเหล่านี้ยังมีส่วนช่วยในเรื่องของการทำวีซ่าเชงเก้นเพื่อขอเข้าประเทศบางประเทศอีกด้วย รู้แบบนี้แล้วสามารถลองเช็คราคาค่าเบี้ยประกันความคุ้มครองและเลือกความคุ้มครองที่ต้องการก่อนเดินทางกันได้เลย

READ MORE : 

• เกิดเหตุการณ์ไหนบ้างที่ประกันเดินทางจะ ไม่รับเคลม
• ที่เที่ยวหน้าหนาว ในเอเชีย ที่ไหนไม่ควรพลาด 2018
• ที่เที่ยวหน้าหนาว ฮ่องกง 2018 นี้ไปที่ไหนดี
• ประกันเดินทาง ควรซื้อล่วงหน้าก่อนวันเดินทางกี่วัน?