BMW – MINI ประเทศไทยเตรียมเปิดตัว มินิ คูเปอร์ เอสอี อย่างเป็นทางการ 6 ก.พ. นี้
หลังจากเปิดตัว รถยนต์ไฟฟ้า Full EV 100% ครั้งแรกในโลกไปเมื่อกรกฎาคม 2562 โดยใช้ชื่อว่า MINI COOPER SE ล่าสุด BMW – MINI ประเทศไทยได้เผยกำหนดการเปิดตัวรถยนต์ MINI Cooper SE รถยนต์ไฟฟ้า EV100% อย่างเป็นทางการออกมาแล้ว ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ นี้ ราคาคาดว่าราว 2,300,000 – 2,500,000 บาท จะถูกนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2020 นี้ด้วย
MINI Cooper SE มีความพิเศษอะไรบ้าง ?
ตัวถังยาว : 3,845 มิลลิเมตร
ความกว้าง : 1,727 มิลลิเมตร
ความสูง : 1,432 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ wheelbase : 2,495 มิลลิเมตร
ความจุที่เก็บสัมภาระด้านท้าย : 211 – 731 ลิตร (เมื่อพับเบาะหลัง)
รูปลักษณ์ภายนอก
MINI Cooper SE ยังคงรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ที่คนรักมินิทั่วโลกหลงรักมาอย่างยาวนานถึง 60 ปี มีกระจังหน้าแบบปิด เลือกตัวสีตัวถัง กระจังหน้า กระจกมองข้าง หลังคาด้วยสีเหลือง เทา เงิน ขาว และดำ ส่วนล้อเป็นแบบน้ำหนักเบา มีให้เลือก 5 ลาย ขนาด 16 – 17 นิ้ว โลโก้ตัว E ในตำแหน่งของฝาถังน้ำมันเดิม ที่สำคัญไม่มีท่อไอเสีย
รูปลักษณ์ภายใน
ภายในห้องโดยสาร MINI Cooper SE ใช้หน้าปัดเป็นหน้าจอดิจิทัล 100% สูงขึ้น 18 มิลลิเมตรเนื่องจากมีแบตเตอรี่ใต้ท้อง ห้องโดยสารเปลี่ยนมาตรวัดใหม่เป็นของเฉพาะ รุ่น ขนาด 5.5 นิ้ว ความจุพื้นที่บรรทุกสัมภาระอยู่ที่ 211 ลิตร และเพิ่มเป็น 731 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังลง
สำหรับ มินิ คูเปอร์ เอสอี ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 184 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ lithium-ion ความจุ 32.6 kWh อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 7.3 วินาที Top Speed ความเร็วสูงสุด 150 km/h ขับเคลื่อนล้อหน้า วิ่งได้ 230-270 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
MINI COOPER SE รองรับการชาร์จแบบใด
สำหรับเจ้า มินิ คูเปอร์ เอสอี ชาร์จได้ทั้งไฟบ้าน( AC) และ สถานี (DC Quick Charge) ช่องชาร์จไฟจะติดตั้งอยู่บริเวณฝาถังน้ำมันเดินของ MINI รุ่นเครื่องยนต์ปกติ สำหรับการชาร์จแบบด่วนชาร์จได้ 10-80% ในเวลา 28 นาที
เรื่องความปลอดภัยใน MINI Cooper SE
สามารถตัดไฟทันทีที่เกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้โครงสร้างตัวถังเสริมความแข็งแรงในจุดที่ต้องซับแรงกระแทกเพื่อปกป้องมอเตอร์และแบตเตอรี่ไฟฟ้ามากขึ้น ส่วนเรื่องการขับขี่ MINI Cooper SE มีการปรับแต่งระบบควบคุมการทรงตัว DSC ให้เหมาะสมขึ้นด้วย
ในส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมของ MINI Cooper SE : Full EV 100% คงต้องรอวันที่ 6 กุมภาพันธ์ วันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งความคืบหน้าทางทีมงานจะมานำเสนอในโอกาสต่อไป
อ่านเพิ่มเติม :