แชร์ทริคขับรถระยะทางไกลให้ปลอดภัย

เผลอแป๊ปเดียวใกล้หมดปี 2565 แล้ว เหลืออีกไม่กี่สัปดาห์ก็จะเข้าสู่ช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ซึ่งมีวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวันถือเป็นช่วงเวลาของการเดินทางไม่ว่าจะเป็นเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนรวมถึงเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อเยี่ยมบ้านเกิด สำหรับคอนเทนต์นี้ท่านใดที่แพลนขับรถระยะไกลเพื่อท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ในช่วงวันหยุดยาว รวมถึงเพื่อกลับบ้านไปเยี่ยมครอบครัวยังต่างจังหวัดวันนี้ทีมงานโปรโมชั่นส์มีทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ มาฝากในหัวข้อ ขับรถทางไกลครั้งแรก ต้องเช็คอะไรบ้าง? ลดความเสี่ยงอุบัติเหตุ

ก่อนขับรถระยะทางไกลเตรียมรถให้พร้อมอย่างไร

1. แบตเตอรี่

ในกรณีรถใหม่ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแต่ถ้าเป็นรถเก่าอายุการใช้งาน 5 ปีขึ้นไปควรตรวจเช็คแบตเตอรี่ว่าอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานหรือไม่ โดยการวัดค่าด้วยเครื่องวัดแบตเตอรี่ปกติควรจะต้องอยู่ที่ 12 – 14.2 โวลต์ (แล้วแต่รอบเครื่องยนต์) หากพบแรงดันต่ำกว่า 12 โวลต์ นั่นหมายถึงแบตตารี่มีแนวโน้มที่จะเสื่อมสภาพและมีโอกาสแบตหมดขณะเดินทางได้

นอกจากนี้ควรหมั่นทำความสะอาดคราบขี้เกลือที่ขั้วแบตเตอรี่ เช็คระดับน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับที่กำหนด รวมถึงหมั่นสังเกตอาการถ้ารถของคุณเริ่มสตาร์ทติดยากนั่นถือเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าแบตเตอรี่อาจหมดอายุการใช้งาน

2. ยางและล้อรถ

ยางทั้ง 4 ล้อ จะต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เช็คหน้ายางว่าดอกยางเหลือมากน้อยแค่ไหน หน้ายางมีรอยฉีกขาดหรือรอยแตกหรือไม่ หากพบรอยรั่วควรรีบนำไปปะทันทีรวมถึงยางอะไหล่ด้วยเช่นกัน ส่วนล้อก็ต้องแน่ใจว่าขันน็อตทุกตัวแน่นหนาดีแล้วและล้ออยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ไม่บิดเบี้ยว

3. ช่วงล่าง

เจ้าของรถจะต้องรู้จักสังเกตความผิดปกติระหว่างการใช้รถหากเกิดอาการดังนี้แสดงว่าช่วงล่างมีปัญหา เช่น ออกตัว เดินหน้า ถอยหลัง มักมีเสียงดังกึกเบา ๆ เมื่อขับรถบนเส้นทางขรุขระแรงสั่นสะเทือนจะสะท้อนขึ้นมาถึงพวงมาลัย เมื่อขับทางตรงบนถนนเรียบสังเกตเห็นพวงมาลัยเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง ต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณของปัญหาช่วงล่างรถ ซึ่งปัญหานี้วิธีแก้จะต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ

ผู้ชายกำลังตรวจเช็คสภาพรถ
ก่อนขับรถระยะทางไกลควรตรวจเช็คสภาพรถให้พร้อมก่อนออกเดินทาง

4. น้ำมันเบรกและระบบเบรก

น้ำมันเบรกมีผลต่อประสิทธิภาพในการเบรก โดยปกติแล้วน้ำมันเบรกจะอยู่ระหว่าง Min กับ Max ปกติต้องไม่เกิน Max และไม่ต่ำกว่า Min ควรตรวจเช็คผ้าเบรกก่อนขับรถทางไกลเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ วิธีเช็คคือ เหยียบเบรกแล้วฟังดูว่ามีเสียงดังผิดปกติหรือไม่ ถ้ามีแสดงว่าผ้าเบรกสึกหรือเริ่มเสื่อมสภาพแล้วควรรีบให้ช่างทำการเปลี่ยนก่อนเดินทาง

5. น้ำมันเครื่อง

น้ำมันเครื่องมีส่วนทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นก่อนขับรถระยะทางไกลจำเป็นต้องเช็คระดับน้ำมันเครื่องโดยดูจากก้านวัด หากพบว่าน้ำมันเครื่องแห้งควรเติมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม นอกจากนี้ควรหมั่นเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะทางที่กำหนดเพื่อให้การทำงานของเครื่องยนต์ที่เต็มประสิทธิภาพ

6. ระบบหล่อเย็น

การขับรถระยะทางไกลทำให้เครื่องยนต์ร้อนหากระบบหล่อเย็นมีปัญหาก็อาจทำให้เครื่องยนต์โอเวอร์ฮีทจนน็อคได้ ดังนั้นควรหมั่นตรวจเช็คหม้อน้ำให้อยู่ในระดับปกติ พัดลมหม้อน้ำทำงานปกติหรือไม่ รวมถึงท่อยางต่าง ๆ มีรูรั่วหรือไม่หากมีให้รีบแก้ไขให้เรียบร้อย

7. ระบบไฟส่องสว่าง

หลายครั้งการขับรถระยะทางไกล ๆ จำเป็นต้องขับในช่วงเวลากลางคืนดังนั้นต้องแน่ใจว่าระบบไฟใช้ได้เป็นปกติและสว่างเพียงพอทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว ไฟเบรก ไฟตัดหมอก ไฟฉุกเฉิน เป็นต้น

8. อุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉิน

การขับขี่ระยะทางไกลบางทีบางครั้งอาจเกิดเรื่องไม่คาดฝันระหว่างทาง เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมควรนำอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉิน อาทิ ล้อ-ยางอะไหล่ สายพ่วงแบต ค้อนนิรภัย แม่แรง ถังน้ำ สายลากจูง ติดรถไปด้วยทุกครั้งจะเป็นการดีที่สุด

และทั้งหมดนี้ก็คือวิธีเตรียมรถยนต์ให้พร้อมก่อนขับรถระยะทางไกลเพื่อให้การเดินทางถึงที่หมายอย่างปลอดภัยไร้อุปสรรค ซึ่งนอกจากการเตรียมรถให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานแล้วอีกสิ่งที่ต้องใส่ใจและควรให้ความสำคัญก็คือเรื่องของสมรรถนะของตัวผู้ขับขี่เองต้องพร้อม 100% ไม่อดนอน ไม่มีอาการเจ็บป่วยก่อนเดินทาง เมาไม่ขับ ไม่มีโรคประจำตัว

รวมถึงควรเช็คประกันภัยรถยนต์ว่ายังอยู่ในความคุ้มครอง เตรียมหมายเลขโทรศัพท์หน่วยงานช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนให้พร้อมเผื่อกรณีฉุกเฉินและที่สำคัญหากไม่คุ้นเคยเส้นทางควรมีผู้ร่วมเดินทางไปด้วยจะเป็นการดีที่สุด

และเมื่อหมดภาระกิจการขับรถระยะทางไกลเรียบร้อยแล้วสิ่งสำคัญที่จำเป็นต้องทำก็คือการดูแลรถโดยเฉพาะพื้นผิวภายนอกให้กลับมาสวยเงางามเหมือนใหม่อีกครั้งเพราะต้องไม่ลืมว่าตลอดเส้นทางพื้นผิวต้องเผชิญกับฝุ่น แสงแดด น้ำฝน โคลน และสิ่งสกปรกอื่น ๆ มากมาย และเพื่อให้ง่ายต้องการเช็ดล้างทำความสะอาด ขับระยะทางไกลแค่ไหนก็ไม่หวั่นว่ารถจะเกิดรอยขีดข่วนขอแนะนำ

บริการเคลือบแก้วรถจาก KRYSTAL COATING บริการมาตรฐานมืออาชีพ มีประสบการณ์เรื่องสีรถมายาวนานกว่า 70 ปี รับดูแลรถทุกไซส์ทุกประเภท อาทิ รถยนต์อีโค่ คาร์ รถตู้ ไปจนถึงรถมอเตอร์ไซค์ ลูกค้าที่ใช้บริการเคลือบสีรถสามารถกลับมาเคลือบซ้ำได้ฟรี!! ล่าสุดมาพร้อมกับแพ็กเกจดูแลรถดังนี้

โปรโมชั่นเคลือบแก้วรถ KRYSTAL COATING

ค่าบริการเคลือบแก้วรถยนต์ KRYSTAL COATING
อัตราค่าบริการเคลือบแก้วรถยนต์ KRYSTAL COATING
  • Nano Krystal Protect ดูแลปกป้องพื้นผิวรถ 1 ปีขึ้นไป
  • 9H Quartz Krystal Coat และ Krysta ดูแลปกป้องพื้นผิวรถ 6 ปีขึ้นไป และ
  • Quartz Ceramic Coat สำหรับดูแลปกป้องผิวรถ 25 ปีขึ้นไป
เคลือบแก้วรถยนต์
โปรโมชั่นเคลือบแก้วรถยนต์ Nano Krystal Protect จาก KRYSTAL COATING

แพ็กเกจเคลือบแก้วรถดูแลรถตลอดปี ราคาเริ่มต้น 6,625 บาท จากปกติ 12,640 บาท ทำได้ 6 ครั้งใน 1 ปี

เคลือบแก้วรถมอเตอร์ไซค์
โปรโมชั่นเคลือบแก้วรถมอเตอร์ไซค์ จาก KRYSTAL COATING

แพ็กเกจเคลือบแก้วรถมอเตอร์ไซค์ ดูแลตลอดปี ราคาเริ่มต้น 2,982 บาท จากปกติ 5,890 บาท

**โปรโมชั่นเคลือบแก้วทั้งคัน ตั้งแต่ตัวถัง กระจกหน้า-หลัง ล้อ รถยนต์ SUV รถยนต์ Eco Car รถยนต์ซีดาน รถตู้ รถจักรยานยนต์ และรถอื่น ๆ หรือสนใจรับบริการได้ที่ เลขที่ 2 ศรีนครินทร์ 47 ถนนศรีนครินทร์ หนองบอน ประเวศ กทม. 10250 หรือสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้แค่คลิกที่แบรนด์เนอร์หรือไลน์แอด

อ่านบทความที่น่าสนใจ

Previous article5 เกมกีฬามือถือสนุก ๆ ถูกใจคอเกมสายกีฬา สนุกได้ไม่ง้อคอม
Next articleสิวขึ้นจมูกเกิดจากอะไร? ปัญหากวนใจที่หนุ่มสาวเป็นกังวล