ศัพท์เกี่ยวกับประกันรถยนต์ที่ควรรู้
การทำประกันรถยนต์ ถือเป็นสิ่งคนยุคสมัยในปัจจุบันนิยมทำกันเป็นอย่างมาก เพราะในประเทศไทยมีผู้ที่หันมาใช้รถยนต์ส่วนตัว กันมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญการเลือกทำประกันนั้นมีตัวเลือกให้ผู้ทำประกันอย่างหลากหลาย อาทิเช่น บริษัทรับทำประกัน แผนประกันรถยนต์ ต่าง ๆ ที่เราสามารถเลือกได้ด้วยตัวเอง
รถยนต์ ทำไมต้องทำประกันรถยนต์? การทำประกันทุกชนิดถือเป็น การกระจายความเสี่ยงหากเกิดอุบัติเหตุหรือค่าเสียหายต่าง ๆ ความเสี่ยงในการรับภาระค่าใช้จ่าย นั้นก็จะตกไปเป็นของบริษัทที่เราทำประกันด้วย หากรถยนต์ของเราไม่ได้ทำประกัน เมื่อเกิดความเสียหายหรืออุบัติเหตุขึ้นเราต้องจ่ายค่าเสียหายต่าง ๆ เองทั้งหมด ซึ่งอย่างที่ทราบกันว่าอะไหล่รถยนต์นั้นมีมูลค่าที่ค่อนข้างสูงพอสมควร ดังนั้นการเลือกทำประกันภัยรถยนต์จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้และผู้ขับขี่รถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 1, ประกันชั้น 2+,2, ประกันชั้น 3+,3 เป็นต้น
หากทำประกันไปแล้วสิ่งที่สำคัญอีกอย่างในการทำประกันนั่นก็คือ การเคลม การเคลมนั้นมีอยู่ 2 รูปแบบนั่นก็คือ การเคลมสด และ การเคลมแห้ง จากบทความที่แล้วเราได้พูดถึง การเคลมสดไปแล้ว วันนี้เราจะมาทำความรู้จัก การเคลมแห้ง ศัพท์ประกันอีกหนึ่งคำที่เราควรรู้
การเคลมแห้งคือ อะไร?
การเคลมแห้ง หมายถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้ว หรือ ผ่านมาแล้ว และเราต้องการที่จะเคลม ซึ่งเราอาจจะปล่อยไว้นานหรือ ไม่นานก็ได้ ซึ่งหลายๆคนจะนิยมปล่อยทิ้งไว้หลายๆจุด พอเมื่อคิดว่าต้องการจะเคลมแล้วจึงแจ้งเข้าที่บริษัทประกันที่เราทำประกันเอาไว้ เพื่อที่จะได้เคลมทีเดียว บาดแผลของรถยนต์นั้นก็จะไม่รุนแรงจะเป็นแผลเล็กๆ เช่น รอยเฉี่ยวเล็กๆ รอยข่วน รอยปุ ร่องรอยเล็กๆน้อยยๆที่เราต้องการที่จะเคลม
ขั้นตอนในการเคลมแห้ง
การเคลมแห้งสามารถ ทำได้ 2 วิธีการดังนี้
แจ้งซ่อมอู่ และ ศูนย์บริการในเครือของบริษัทประกัน
เราสามารถเขียนแบบฟอร์มขอเรื่องเคลมที่อู่ หรือ แบบฟอร์มในการเคลมที่ผู้เอาประกันกรอกข้อมูลแล้วเรียบร้อยในการเคลมที่อู่ เพื่อบันทึกตรงเข้าสู่ระบบ แจ้งเคลมแบบ Online และรับหมายเลขเคลมโดยอัตโนมัติ โดยมีเอกสารดังนี้
- กรมธรรม์
- สำเนาทะเบียนรถยนต์
- สำเนาใบขับขี่
แจ้งเคลมผ่านระบบออนไลน์
ส่วนของการเคลมผ่านออนไลน์นั้น ผู้เอาประกันภัยสามารถเคลมได้หลากหลายช่องทาง โดยจะมี 4 ขั้นตอน
- ใส่ข้อมูลฝ่ายประกัน
- ใส่ข้อมูลการเกิดเหตุ
- ถ่ายภาพรถยนต์ของท่าน พร้อมกับให้เห็นป้ายทะเบียน + กับภาพความเสียหายที่ต้องการเคลม
- ภาพใบขับขี่
- ภาพกรมธรรม์
- เลือกสถานะฝ่ายรถประกัน
โดยที่ระบบนั้นจะออกหมายเลขเคลมให้อัตโนมัติ เพื่อให้เราไปติดต่อศูนย์บริการในเครือที่จะจัดซ่อมต่อไป
การติดต่อการนำรถเข้าซ่อม
เมื่อเรามีเลขเคลมแล้ว เราก็สามารถนำรถยนต์ที่เราต้องการเคลมนั้นเข้าอู่ หรือ ศูนย์ บริการใกล้บ้าน ที่อยู่ในเครือของบริษัทประกันที่เราทำได้เลย เพื่อการบริการที่มีความรวดเร็ว และทางอู่ หรือ ศูนย์ บริการจะแจ้งเคลมและวางบิลอัตโนมัติ Online กับประษัทรับทำประกันของเราทั้งหมด ระหว่างขั้นตอนการดำเนินงาน
เจ้าของรถ หรือ ผู้ที่เอาประกัน ต้องนำรถประกันหรือรถคู่กรณี พร้อมใบเสนอราคามาเป็นการตกลงราคาค่าซ่อม (หากมีคู่กรณี) ณ ศูนย์บริการสินไหม ครบวงจร หรือ สำนักงานสาขาของบริษัทประกัน โดยมีเอกสารดังนี้
- สำเนาทะเบียนรถ
- ใบขับขี่
- สำเนากรมธรรม์ (กรณีมอบอำนาจให้อู่เป็นตัวแทน)
- สำเนาหน้าสมุดเงินฝาก (กรณีมอบอำนาจให้อู่เป็นตัวแทน)
หากประกันเป็นแบบซ่อมห้าง ต้องการนำรถยนต์ เข้าศูนย์นอกเครือของทางบริษัท ทางบริษัทจะจัดเจ้าหน้าที่ออกอนุมัติราคาให้ ณ ศูนย์ หลังจากที่ได้ใบเสนอราคา ค่าซ่อมจากศูนย์ฯ
หากใครที่ทำประกันรถยนต์อยู่แล้วนั้น และต้องการที่จะเคลมบาดแผลของรถยนต์ต่าง ๆ ก็สามารถยิ่นเรื่องขอใบเคลมกันก่อนได้ แต่ถ้าจะให้ดีคือ เราควรที่จะเข้าซ่อมตามศูนย์ หรืออู่ที่บริษัทประกันเป็นผู้กำหนด เพื่อการบริการที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม บางบริษัทในกรณีการเคลมแบบไม่มีคู่กรณีนั้นอาจจะต้องมี การเสียค่า Excess ในการจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก ก่อนซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทประกันว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ด้วย
READ MORE :
- เคลมสดคืออะไร? สิ่งที่คนทำประกันรถยนต์ต้องรู้
- ประกันรถยนต์บริษัทไหนดี – รวม 10 บริษัทที่คนทำเยอะที่สุด
- 10 อันดับประกันรถยนต์ที่ดีที่สุด 2561
- 7 ข้อ เพื่อเตรียมพร้อม ก่อนเลือกซื้อประกันรถยนต์