หัวใจของระบบไฟในรถยนต์
“ไดชาร์จ” อุปกรณ์ชิ้นเล็ก ๆ แต่ทำหน้าที่ยิ่งใหญ่มาก ด้วยการผลิตไฟฟ้าจ่ายไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในรถยนต์ของคุณ และเพื่อให้ทุกคนได้รู้จัก และเข้าใจการทำงานไดชาร์จ และหากไดชาร์จเสื่อมจะสามารถรู้ได้อย่างไร ตามไปหาคำตอบพร้อม ๆ กันเลย
ไดชาร์จ คืออะไร
ไดชาร์จรถยนต์ เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่คล้ายเครื่องกำเนิดไฟฟ้า หรือเครื่องปั่นไฟ โดยไดชาร์จมีหน้าที่ปั่นไฟ และจ่ายกระแสไฟให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ในรถยนต์ อาทิ ระบบแอร์, เเตร, ไฟหน้า, วิทยุ รวมถึงแบตเตอรี่ซึ่งเป็นแหล่งเก็บไฟฟ้าสำรอง เพื่อพร้อมจ่ายไฟได้เสมอ ดังนั้น ถ้าเมื่อใดที่ไดชาร์จเสีย ไม่สามารถปั่นไฟเพื่อจ่ายกระแสไฟได้ นั่นเท่ากับว่า รถยนต์ของคุณกำลังดึงไฟฟ้าสำรองจากแบตเตอรี่มาใช้ เมื่อไฟฟ้าในแบตเตอรี่หมดลง จนทำให้สตาร์ทเครื่องยนต์ในครั้งต่อไปไม่ได้ เพราะแบตเตอรี่หมด เนื่องจากไม่ได้รับกระแสไฟฟ้ามาจากไดชาร์จ
ไดชาร์จ และไดสตาร์ท ทำหน้าที่เหมือนหรือต่างกัน
ด้วยความที่ “ไดชาร์จ” และ “ไดสตาร์ท” เป็นชื่อเรียกที่คุ้นหูของหลาย ๆ คน จนบางครั้งเข้าใจผิดว่า “ไดชาร์จ” และ “ไดสตาร์ท” คือ อุปกรณ์ตัวเดียวกัน ซึ่งที่จริงแล้วไม่ใช่ แถมยังทำหน้าที่แตกต่างกันด้วย
โดยไดชาร์จ จะทำงานขณะที่เครื่องยนต์ทำงานเท่านั้น เพื่อปั่นกระแสไฟออกมาและนำไฟไปจ่ายให้กับ อุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ในรถยนต์ และส่วนอื่นที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าในรถยนต์ทั้งหมด ซึ่งแตกต่างจากไดสตาร์ท หรือ มอเตอร์สตาร์ท ที่ทำหน้าที่เป็นมอเตอร์ต้นกำลัง ในการฉุดให้เครื่องยนต์ติดตอนเวลาสตาร์ทรถยนต์
รู้ได้ไง ? ว่า ไดชาร์จกำลังเสื่อมสภาพ
1. มีไฟแจ้งเตือนรูปแบตเตอรี่ขึ้นโชว์ที่หน้าปัด ถ้าโชว์ก็แสดงว่าไดชาร์จเสียหรือไม่ทำงาน ควรจะรีบนำรถเข้าเช็คที่ศูนย์บริการฯ ให้เร็วที่สุด
2. เมื่อไดชาร์จเสียอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ต้องใช้กระแสไฟฟ้าในขณะนั้น อาทิ ไฟหน้าและไฟภายในรถยนต์จะเริ่มค่อย ๆ หรี่ลง และแอร์จะเริ่มมีความเย็นลดลง
3. รอบเครื่องยนต์ตก เร่งไม่ออก ไปจนถึงเครื่องยนต์ดับ
4. ความร้อนขึ้นเร็ว เนื่องจากไม่มีกระแสไฟไปเลี้ยงพัดลมหม้อน้ำ
5. ถ้ารถยนต์ของคุณ เป็นพวงมาลัยพาวเวอร์ ตัวพวงมาลัยจะเริ่มค่อย ๆ หนักขึ้น
6. ไดชาร์จมีเสียงหอน
วิธีเช็คว่าไดชาร์จเสียหรือไม่ ?
สำหรับใครที่อยากเช็คว่า ไดชาร์จรถยนต์ของคุณใกล้เสื่อมสภาพหรือยัง ก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก คุณสามารถเช็คได้เอง ดังนี้
1. ให้สังเกตว่า แบตเตอรี่รถยนต์ของคุณหมดไวผิดปกติหรือไม่ ทั้ง ๆ ที่เป็นแบตเตอรี่ใหม่ที่คุณเพิ่งซื้อมาเปลี่ยน
2. ให้ลองเช็คด้วยการติดเครื่องยนต์ จากนั้นให้เราถอดขั้วแบตเตอรี่ขั้วลบออก หากเครื่องยนต์ยังคงทำงานปกติ แสดงว่าไดชาร์จยังปกติดีอยู่ แต่หากถอดขั้วแบตเตอรี่แล้ว เครื่องยนต์ดับ ก็แสดงว่าไดชาร์จเสีย
การดูแลรักษาไดชาร์จ
ไม่ว่าไดชาร์จรถยนต์ของคุณจะใกล้เสื่อมสภาพ หรือเพิ่งเปลี่ยนใหม่ มีสิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้รถยนต์ควรทำอย่างสม่ำเสมอนั่นคือ การดูแลรักษาไดชาร์จ ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
1. ถ้าไดชาร์จมีน้ำเข้าโดยบังเอิญ หรือเคยขับรถลุยน้ำท่วมมาก่อน แนะนำให้คุณถอดไดชาร์จออกมาเป่าแห้ง หรือตากแดด และทำความสะอาด อย่าปล่อยให้มีน้ำหรือมีความชื้นเข้าไปในไดชาร์จเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดสนิมและไฟฟ้าลัดวงจรได้
2. ขอให้คอยตรวจสอบความแน่นของน็อตที่ยึดไดชาร์จว่า ยังอยู่ในสภาพแน่นดีอยู่หรือไม่ ? เพราะถ้าน็อตที่ยึดไดชาร์จมีการคลายตัวออกมาหรือหลวม ก็อาจทำให้ที่ยึดของขาไดชาร์จแตกหักได้เช่นกัน
3. หมั่นตรวจสอบความตึงของสายพานอยู่เสมอ หากสายพานเกิดการหย่อนจะทำให้ไดชาร์จจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ทั้งอาจทำให้สายพานจะเสียหายได้ ที่สำคัญการตั้งสายพาน ก็ไม่ควรให้ตึงจนเกินไป และไม่ควรหย่อนจนเกินไปเช่นกัน
อย่างไรก็ดี หากพบว่า ไดชาร์จเสียหรือไม่ทำงาน ไม่แนะนำให้คุณดำเนินการถอดไดชาร์จออกมาซ่อมแซมเอง เพราะอาจจะทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้นกว่าเดิม แต่ควรรีบให้ช่างที่มีประการณ์ตรวจสอบแทน เพื่อความปลอดภัยของคุณเอง
READ MORE :
- ส่วนควบรถยนต์ คืออะไร สำคัญอย่างไร ?
- รถยนต์ ISUZU 2020 เปิดตัวราคาเท่าไหร่ ?
- ต่อภาษีรถยนต์ที่ไหน ไม่ต้องไปไกลถึงขนส่ง
- รถยนต์ไฟฟ้า TAKEOKA MILIEU R ราคาเท่าไหร่ ? มีความพิเศษอะไรบ้าง ?
- อะไหล่รถยนต์อะไรบ้าง ? เปลี่ยนที่ร้านนอกประหยัดกว่า