ดาวน์รถกี่บาทดีนะ? จะซื้อมือหนึ่ง มือสอง ต้องจ่ายซักกี่เปอร์เซ็นต์ถึงจะดี?

เจอรถฟรีดาวน์? อย่าพึ่งตัดสินใจซื้อ

ระยะหลังๆเราจะได้เห็น โปรโมชั่นที่โหมกระหน่ำมาจากค่ายรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น Option พิเศษ, ฟรีประกันชั้น 1, แจกทองคำ, ลุ้น iPhone, และอีกหลากหลายสารพัด แต่เอาจริงๆแล้ว สิ่งที่ทำให้คนที่มีเบี้ยน้อยหอยน้อยตัดสินใจได้รวดเร็ว คงไม่ใช่โปรแบบนี้ แต่มันคือโปรโมชั่นฟรีดาวน์ ซึ่งหลังๆ เราจะเห็นคนหารถฟรีดาวน์ เช่นพวก รถกระบะ, MG, รถมือสอง, หรือมือหนึ่ง อย่าง Honda Jazz และ อีกเยอะแยะมากมาย แต่จริงๆแล้ว การดาวน์รถ มีประโยชน์มากในเชิงของการประหยัดดอกเบี้ย เพราะมันคือการเอาเงินไปตัดเงินต้น ก่อนที่จะยื่นกู้ซื้อรถ และวันนี้ เรามีข้อแนะนำเกี่ยวกับ การดาวน์รถ เพราะมี หลายคนมีข้อสงสัยว่า ต้องดาวน์รถกี่บาท

จริงหรือ? เงินดาวน์ ยิ่งเยอะยิ่งดี?

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลา เราซื้อของแพงๆ อย่างมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ หรือ บ้าน ที่ต้องตามมาด้วยหนี้สินจำนวนมาก เราจะต้องวางเงินดาวน์ หรือที่เรียกว่า เงิน Deposit และมันคือ เงินที่จ่ายก่อนล่วงหน้า เพื่อไปตัดราคาของของที่กำลังจะซื้อ

ประโยชน์และข้อดีของเงินดาวน์ก็คือ มันทำให้เรากู้ยืมได้น้อยลง และยิ่งจ่ายดาวน์มากขึ้น ทำให้เงินที่ต้องกู้ยืมต่ำลง และทำให้ จ่ายดอกเบี้ยได้น้อยกว่าเดิมมาก นอกจากนั้นยังทำให้ มีเงินผ่อนจ่ายต่อเดือน (ค่างวด) น้อยลงตามไปด้วย ซึ่งรวมถึงบางสถาบันการเงิน หากผู้ซื้อดาวน์ต่ำ ทางสถาบันเค้าอาจจะต้องให้ทำ ประกันสุขภาพสำหรับการประกันว่าเราต้องจ่ายคืนให้ได้ แม้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผู้กู้ก็ตาม การวางเงินดาวน์สูงๆ อาจทำให้เราไม่ต้องทำประกัน ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้อีก

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า การที่เราเจอโปรโมชั่นพวก ฟรีดาวน์ หรือที่เรียกว่า ดาวน์ 0% เราควรถอยให้ห่าง เพราะ ถ้าเราเลือกที่จะไม่วางดาวน์ ข้อดีที่กล่าวถึงด้านบน จะกลับข้างกันหมดเลยคือ

สิ่งที่จะเกิดขึ้นถ้าไม่วางเงินดาวน์ เช่น เจอ ฟรีดาวน์ หรือ ดาวน์ 0%

1. ดอกเบี้ยจะสูงมหาโหด
2. ค่างวดรถ ค่าผ่อนรถ รายเดือนจะสูงขึ้นแบบเท่าตัว ทำให้เป็นการบังคับให้ขายรถทิ้งแบบขาดทุนในที่สุด
3. ถึงแม้จะยืดเวลาผ่อน ก็จะตามมาด้วยดอกเบี้ยสูงลิบลิ่ว
4. อาจโดนบังคับทำประกัน ตามสัญญาไฟแนนซ์รถ

อ่านต่อ : ความเข้าใจผิดกับการจัดไฟแนนซ์รถยนต์ ทำให้จ่ายแพงกว่า

รถมือหนึ่ง มือสอง ควรจะต้องวางเงินดาวน์ เท่าไหร่ ถึงจะเหมาะสมที่สุด?

มากกว่า 90% ของผู้ซื้อรถใหม่ป้ายแดง และ มากกว่า 50% ของ ผู้ซื้อรถมือสอง ต้องวิ่งเข้าหาบริษัทรับจัดไฟแนนซ์ เวลาซื้อรถยนต์ หรือ มอเตอร์ไซค์ และการจัดไฟแนนซ์รถยนต์นั้น ทำให้ต้องมีการวางเงินดาวน์ ซึ่งการวางดาวน์ นั้น ในบางครั้งอาจเชื่อมโยงกับประวัติเครดิตที่ทางสถาบันการเงินเค้าเช็คกับเครดิตบูโร แต่อย่างไรก็ดี ในบทความแนะนำนี้เราสมมติว่า ผู้ที่จะซื้อรถใหม่หรือเก่า มีคะแนนเครดิตที่ดี และต้องการรู้ว่าจะต้องวางเงินดาวน์รถเก่า รถใหม่เท่าไหร่

รถมือหนึ่ง ป้ายแดง ควรจะต้องดาวน์เท่าไหรดี?

รถมือหนึ่ง เงินดาวน์ ที่ควรจะวางก็คือ 20% เป็นอย่างต่ำ เพราะการวางเงินระดับนี้ จะมีข้อดีหลายๆข้อ และหนึ่งในข้อที่ ควรรู้มากที่สุดก็คือ การที่ทำให้ ราคารถในแต่ละปีเอาชนะค่าเสื่อมได้ 

เพราะรถ ไม่ว่าจะยี่ห้อใดก็ตาม หากไม่ได้เป็นรถแบบ Rare item อย่างพวก Ferrari หรือ Lamborghini บางรุ่นที่ราคาสูงขึ้นทุกปี รถธรรมดาๆ ที่ใช้งานกัน มูลค่าจะลดลงทุกปี การวางเงินดาวน์ 20% ขึ้นไป จะทำให้ การผ่อนจบไวขึ้น และ เมื่อผ่อนจบไวขึ้น รถยังไม่เก่าเกินไป มูลค่ารถยังพอกับค่าที่ผ่อนไปทั้งหมด หลังจากดาวน์ไปแล้ว ตัวอย่างเช่น

• ซื้อรถราคา 1 ล้านบาท วางเงินดาวน์ 20% ผ่อน 800,000 บาท 5 ปี
• รถราคา 1 ล้านบาท จะมีค่าเสื่อมเฉลี่ยที่ 15% ต่อปี
• ลองมาคำนวณเล่นๆดูกัน

จากภาพด้านบน ลองคำนวณดูว่า เมื่อสิ้นปีที่ 5 รถป้ายแดงจะมีมูลค่าลดลงมาประมาณ 60% ซึ่งเป็นหลักการคิดค่าเสื่อม จากรถราคา 1 ล้านบาท จะเหลือมูลค่าที่ 400,000 บาท ทันที แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็จะขึ้นอยู่กับ ยี่ห้อ รุ่น ความนิยม และ ราคากลางในตลาดขณะที่คำนวณด้วย อย่างไรก็ดี เราพอเห็นภาพคร่าวๆว่า หากเราผ่อนด้วยจำนวนเงินที่เยอะตอนสิ้นสุด 5 ปี ยกตัวอย่างเช่น หากผ่อน ด้วยดอกเบี้ย 5% ก็จะต้องผ่อนตอนสิ้นสุดทางที่ประมาณ 1 ล้านกว่าบาท เมื่อสิ้นสุดปีที่ 5 การดาวน์รถป้ายแดงในจำนวนเงินที่เยอะ จะทำให้ค่าผ่อนน้อยลง ทำให้เอาชนะค่าเสื่อมได้

แล้วถ้าจะดาวน์รถมือสองหล่ะ? ควรจะต้องดาวน์เท่าไหร่?

การวางดาวน์รถยนต์มือสอง เนื่องจาก รถมีค่าเสื่อมมากแล้ว การวางดาวน์ น้อยๆ ก็เป็นเหตุผลอันสมควร ดังนั้นควรจะดาวน์แค่ประมาณ 10% ของราคาที่จะซื้อ เพื่อที่จะให้เอาชนะค่าเสื่อมรถยนต์ได้

คำถามต่อมาคือ แล้วถ้าไม่มีเงินดาวน์ 20% หล่ะ? จะทำยังไง?

ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีเงินเพื่อไปดาวน์รถกันตลอดเวลา และไม่ใช่ว่าจะต้องไปกู้สินเชื่อมาเพื่อซื้อรถ ดังนั้น หากจะดาวน์รถให้ได้ 20% หล่ะก็ ควรต้องหาทางอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น

1. เอารถที่มีอยู่ไป ขาย หรือ แลก เพื่อให้ได้ 20% ของมูลค่ารถคันใหม่
2. เก็บเงินให้เพียงพอต่อการดาวน์รถ แล้วค่อยซื้อ
3. นำเงินที่มี ไปใช้ในการลงทุนก่อน แล้วค่อยๆเก็บมาดาวน์รถ

---

อื่นๆเกี่ยวกับสินเชื่อรถยนต์

• รีไฟแนนซ์ รถยนต์ ที่ยังผ่อนไม่หมด ทำได้หรือไม่ อย่างไร?
• ผ่อนมา 1 ปี สามารถ รีไฟแนนซ์ ได้หรือเปล่านะ? 
• รีไฟแนนซ์รถยนต์ อย่างไรให้มันผ่านง่ายที่สุด

จัดไฟแนนซ์รถยนต์ ผ่อนลดต้นลดดอก จาก สคบ ดีจริงหรือไม่?