Apple Watch รุ่นไหนดี 2023 ได้รับความนิยม คุ้มค่าคุ้มราคา

Apple Watch ซื้อรุ่นไหนให้เหมาะสมกับการใช้งาน

ทุกวันนี้ต้องยอมรับเลยว่าอุปกรณ์ไอทีและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตไปแล้ว และแน่นอนว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ ทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญยังย่อขนาดให้เล็กลง ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการใช้งาน การติดต่อสื่อสาร ความบันเทิง หรือแม้แต่เรื่องสุขภาพ แต่หากพูดถึงไอเทมเพื่อสุขภาพที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง สมาร์ทวอชท์ หรือนาฬิกาอัจฉริยะต้องเป็นไอเทมชิ้นแรก ๆ ที่ช่วยตอบโจทย์ผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นนาฬิกาน้องใหม่ที่เข้ามาแทนที่นาฬิกาแบบเดิม ๆ ซึ่งสมาร์ทวอชท์ทำหน้าที่ได้หลายอย่างทั้งเป็น นาฬิกาวัดค่าออกซิเจนในเลือด นาฬิกาออกกำลังกาย ตรวจวัดจำนวนก้าวเดิน และฟังก์ชั่นอื่น ๆ ที่แต่ละรุ่นทำออกมาไม่เหมือนกัน

แต่ในส่วนของ Smart Watch ที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ใช้ iPhone คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก ‘Apple Watch’ นาฬิกาอัจฉริยะที่ช่วยวิเคราะห์สุขภาพของผู้ใช้ได้แบบเรียลไทม์ สามารถเชื่อมต่อ Bluetooth บนสมาร์ทโฟนได้เพื่อความสะดวกต่อการใช้งาน แต่อย่างที่รู้กันว่าทาง Apple วางจำหน่าย Apple Watch ออกมาหลายรุ่น เพื่อคลายข้อสงสัย Apple Watch รุ่นไหนดี วันนี้ Promotions.co.th มีคำตอบ

คนออกกำลังกาย
Apple Watch นาฬิกาเพื่อสุขภาพ

เลือกซื้อ Apple Watch อย่างไรให้ตอบโจทย์การใช้งาร

เลือกจากฟังก์ชันการใช้งาน

Apple Watch มีหลายรุ่นหลายราคา หากเน้นการออกกำลังกายเป็นหลัก ให้เลือกซื้อ Apple Watch รุ่นที่มีโหมดสำหรับออกกำลังกายโดยเฉพาะ จะช่วยให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่หากต้องการใช้งานธรรมทั่วไป แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีฟังก์ชันสุขภาพพื้นฐานก็เพียงพอแล้ว เพราะยิ่งนาฬิกามีฟังก์ชันเสริมเกี่ยวกับการออกกำลังกายมากเท่าไหร่ ราคาก็จะยิ่งสูงตามไปด้วย ดังนั้นหากไม่อยากเปลืองงบแบบเปล่าประโยชน์ข้อนี้สำคัญมาก

เลือกจากรูปแบบการสื่อสาร

  • Apple Watch โมเดล GPS ข้อดีคือมีราคาที่ถูกกว่าโมเดล GPS + Cellular แต่ข้อจำกัดคือรุ่นนี้จะไม่มีอินเทอร์เน็ตในตัวเอง จะต้องมี iPhone อยู่ใกล้ ๆ ตลอดเวลาจึงจะสามารถซิงค์การทำงานได้ แต่เมื่อไหร่ที่ Apple Watch ออกจากระยะห่าง iPhone การเชื่อมต่อทั้งหมดก็จะถูกตัด
  • Apple Watch โมเดล GPS + Cellular เป็นรุ่นที่สามารถใส่ซิมได้ (eSIM) สามารถทำงานได้โดยไม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้ iPhone ใช้งานสะดวกกว่าโมเดล GPS แต่แน่นอนว่าความสามารถเพิ่มขึ้น ราคาย่อมสูงขึ้นด้วย

เลือกการใช้งานจากวัสดุและขนาด

Apple Watch แต่ละรุ่นจะมี 2 ขนาดหน้าจอ คือ รุ่น 40 มม. (324 × 394) และ รุ่น 44 มม. (368 × 448) ในส่วนของวัสดุตัวเรือนจะมี 4 ชนิด ได้แก่ สเตนเลสสตีล, อะลูมิเนียม, เซรามิก และไทเทเนียม ดังนั้นเลือกขนาดและวัสดุให้ตรงกับความต้องการ จะช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานได้มากกว่า

เลือกจากชนิดของสายนาฬิกา

สายนาฬิกา Apple Watch มีหลายแบบ หากเน้นการออกกำลังกายแนะนำให้เลือกสายกันน้ำ (Water Proof) ที่ส่วนใหญ่ทำมาจากยาง แต่หากต้องการสายที่ระบายอากาศได้ดี แนะนำเป็นสาย Sport Loop หรือสายไนลอนถัก และหากต้องการเพิ่มความหรูหราให้กับการใช้งานแนะนำสายหนังและสายสแตนเลส

Apple Watch รุ่นไหนเหมาะกับใคร?


Apple Watch Series 3 GPS

Apple Watch Series 3 GPS
Apple Watch Series 3 GPS

Apple Watch ราคาถูก ไซซ์เล็ก แต่มีฟังก์ชันครบตามมาตรฐาน โดยโมเดลที่สนใจจะเป็นหน้าปัดแบบเก่า ที่เหมาะมากสำหรับคนชอบนาฬิกาเรือนเล็ก ๆ วัสดุทำมาจากอะลูมิเนียมสีดำ เข้ากับสายแบบยาง ใครชอบความเรียบ ๆ และมีงบจำกัดแนะนำเป็นรุ่นนี้เลย

  • ราคา : เริ่มต้น 6,900 บาท

Apple Watch Nike SE GPS + Cellular

Apple Watch Nike SE GPS + Cellular
Apple Watch Nike SE GPS + Cellular

จุดเด่นของ Apple Watch Nike SE คือเป็นสายยางฟลูโอโรอีลาสโตเมอร์ ที่มีรูระบายอากาศ สวมใส่ได้ตลอดทั้งวันแบบไม่ร้อน มีประสิทธิภาพการกันน้ำ เหมาะสำหรับการสวมใส่ไปว่ายน้ำมาก ๆ ทั้งยังใช้การเชื่อมต่อแบบ GPS + Cellular เพิ่มความสะดวกให้กับการใช้งาน แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนชนิดชาร์จซ้ำได้ภายในตัวเครื่อง สูงสุด 18 ชั่วโมง

  • ราคา : 12,500 บาท

Apple Watch Series 6 GPS

Apple Watch Series 6 GPS
Apple Watch Series 6 GPS

Apple Watch Series 6 ใช้สายนาฬิกาแบบ Braided Solo Loop ยืดหยุ่นได้ ใส่แล้วไม่บีบรัด หน้าจอติดตลอดและเร็วขึ้นช่วยให้มองเห็นหน้าจอชัดเจนทั้งกลางวันและกลางคืน สามารถแชร์ข้อมูลสุขภาพของคนในครอบครัวผ่านแอปพลิเคชั่นได้ ส่วนฟังก์ชันอื่น ๆ มีประสิทธิภาพน้อยกว่ารุ่นใหม่อย่าง  Apple Watch Series 7 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

  • ราคา : 8,490 บาท

Apple Watch Series 5 GPS + Cellular

Apple Watch Series 5 GPS + Cellular
Apple Watch Series 5 GPS + Cellular

สำหรับรุ่นนี้ใช้หน้าจอ LTPO OLED Retina แบบติดตลอดจึงไม่ต้องคอยหมุนข้อมือเพื่อเช็กเวลา มีเข็มทิศที่สามารถบอกทิศทางและจุดที่คุณอยู่ได้ ช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องการเดินทางได้เป็นอย่างดี มาพร้อมแอปพลิเคชั่น Apple Pay ใช้จ่ายได้สะดวกผ่าน Apple Watch ใช้วัสดุกรอบอะลูมิเนียมและสแตนเลสสตีล มีฟังก์ชันวัดความดันโลหิต

  • ราคา : 16,900

Apple Watch SE GPS

Apple Watch SE GPS
Apple Watch SE GPS

Apple Watch SE ถูกออกแบบตามคอนเซ็ปต์ SE ที่ทาง Apple วางไว้ คือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาในราคาคุ้มค่า มีการตัดลูกเล่นและฟีเจอร์บางอย่างออกไป แต่ก็ยังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยฟีเจอร์ใน Apple Watch SE จะไม่ต่างจากตัว Series 6 มากนัก เช่น หน้าปัดติดตลอด โทรฉุกเฉินได้ทั่วโลก ฯลฯ ส่วนโปรเซสเซอร์ใช้ S5 SiP with 64-bit Dual-Core Processor เหมือนกับซีรีส์ 5 แต่เมื่อเทียบกับราคารุ่นนี้ถือว่าน่าจับต้องมากเลยทีเดียว

  • ราคา : เริ่มต้น 9,900 บาท

Apple Watch Series 7

Apple Watch Series 7
Apple Watch Series 7

สำหรับ Apple Watch Series 7 เพิ่งเปิดตัวไปในช่วงปี 2021 ที่ผ่านมา ใช้ระบบปฏิบัติการ WatchOS 8 ส่วนดีไซน์ภายนอกได้มีการปรับแต่งด้วยขอบโค้งมนและนุ่มนวลกว่าเดิม พร้อมลดขอบลงทำให้หน้าจอมีความหนาเพียง 1.7 mm เท่านั้น จอภาพลดการหักเหของแสงได้รอบบริเวณ และใช้กระจกหน้าจอแบบ  Ion‑X  ทนทาน แข็งแรง แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่องนาน 18 ชั่วโมง มีให้เลือก 5 สีใหม่ ได้แก่ สีมิดไนท์, สีสตาร์ไลท์, สีเขียว สีน้ำเงินใหม่ และรุ่น (PRODUCT)RED ถือเป็น Apple Watch ที่มีดีไซน์และฟังก์ชันสมบูรณ์ที่สุดในตอนนี้แล้ว

  • ราคา : เริ่มต้น 13,900 บาท

ทั้งหมดนี้เป็นตัวเลือก Apple Watch รุ่นไหนดี 2023 ที่เรานำมาบอกต่อทุกคน แต่ละรุ่นมีราคาและฟังก์ชั่นการใช้งานที่ไม่เหมือนกัน และสำหรับใครที่กำลังรอการเปิดตัว Apple Watch Series 8 ขอให้อดใจรอกันอีกสักหน่อย เพราะมีข่าวลือว่าเร็ว ๆ นี้อาจมีการเปิดตัว พร้อมราคา Apple Watch Series 8 เอาเป็นว่าหากมีการเปิดตัวแบบเป็นทางการเมื่อไหร่ ทางเราจะรีบนำมาอัปเดตให้ทุกคนทราบทันที

อ้างอิงข้อมูลและรูปภาพจาก : www.apple.com

อ่านเพิ่มเติม :

Previous article1 ก.ค.นี้ เรือคลองแสนแสบปรับขึ้นราคา เพิ่ม 1 บาท ทุกระยะ
Next articleทีวี กินไฟกี่วัตต์ ใช้งานอย่างไรลดค่าใช้จ่าย พร้อมสูตรคำนวณค่าไฟ