ครม.ไฟเขียว “หน้ากากอนามัย และ เจลล้างมือ” เป็นสินค้าควบคุมมีผลบังคับทันที
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศฉบับที่ 1 พ.ศ. 2563 เรื่องการกำหนดสินค้าควบคุมเพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 (1) และมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ให้ 1.หน้ากากอนามัย 2.ใยสังเคราะห์ที่ใช้ในการผลิตหน้ากาก (Polypropylene (Spunbond) 3. ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบเพื่อสุขอนามัยสำหรับมือ และ
4. เศษกระดาษและกระดาษที่นำกลับมาใช้ได้อีก เป็นสินค้าควบคุมและให้บังคับใช้เป็นระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป ลงท้ายประกาศระบุชื่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประธานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ
หลังจากข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในบ้านเราตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ประกอบกับเรื่องฝุ่นพิษ PM 2.5 ทำให้ประชาชนตื่นตัวหาวิธีรับมือกับภัยร้ายที่เข้ามาใกล้ตัวทุกทีด้วยการแห่กันซื้อสินค้า หน้ากากอนามัย รวมถึง เจลล้างมือ จนสินค้าขาดตลาดในหลายพื้นที่ (คาดการณ์ความต้องการหน้ากากอนามัยสูงขึ้นตก 40-50 ล้านชิ้นต่อเดือน)
ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการกักตุนสินค้า ด้วยเหตุนี้หลังประกาศให้ 4 สินค้าดังกล่าวข้างต้นเป็นสินค้าควบคุมในราชกิจจานุเบกษาแล้วทำให้ภาครัฐมีอำนาจตามกฎหมายที่จะบริหารจัดการ
รัฐมีอำนาจแค่ไหนเมื่อประกาศให้ หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ เป็นสินค้าควบคุม
จากประกาศฯฉบับนี้ทำให้กระทรวงพาณิชย์กำหนดให้ หน้ากากอนามัย, เจลล้างมือ, ใยสังเคราะห์ที่ใช้ในการผลิตหน้ากาก ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบเพื่อสุขอนามัยสำหรับมือ และ เศษกระดาษ เป็นสินค้าควบคุม ซึ่งกรมการค้าภายในจะเริ่มทำการออกมาตรการ 4 เรื่องดังนี้
1. ขอข้อมูลผู้ผลิต จำหน่าย นำเข้า และส่งออก แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการผลิต การครอบครอง การจัดจำหน่ายที่น่าจะเป็นประโยชน์
2. สามารถตรวจสอบได้ว่าการกระจายสินค้าผู้ผลิตส่งไปที่ไหน อย่างไร เพื่อให้สินค้าที่ได้กระจายไปนั้น ไม่ไปกระทบที่ใดที่หนึ่ง
3. เรื่องการส่งออกจำนวนเท่าไหร่ต้องขออนุญาตจากกระทรวงพาณิชย์ เพื่อควบคุมปริมาณเบื้องต้นหากเกิน 500 ชิ้น ต้องขออนุญาตส่งออกหรือขออนุญาตเคลื่อนย้ายออกนอกราชอาณาจักร
4. เรื่องของการติดป้ายแสดงราคาจำหน่าย ต้องขายให้ตรงกับราคาที่ติดไว้
บทลงโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืน
สาระสำคัญของบทลงโทษตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ระบุว่า ผู้ไม่ปฎิบัติตามบทบัญญัติตามพระราชบัญญัตินี้, จำหน่ายสินค้าหรือบริการในลักษณะที่ต่างออกไปจากรายการที่แจ้งไว้, ไม่แสดงราคาหรือจงใจทำให้ราคาต่ำเกินสมควรหรือสูงเกินสมควร, หรือทำให้เกิดความปั่นป่วนซึ่งราคาของสินค้าหรือบริการ
กักตุนสินค้าควบคุมเกินปริมาณที่กฎหมายกำหนด, หรือหยุดให้บริการตามปกติ, หรือปฎิเสธให้บริการ, หรือประวิงการให้บริการโดยไม่มีเหตุผลอันควร, ไม่อำนวยความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่, ขัดขวางการปฎิบัติหน้าที่, ฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตามประกาศของคณะกรรมการ จะต้องได้รับโทษตามกฎหมายกำหนด
จากสถานการณ์ของเชื้อไวรัสอู่ฮั่น หรือ ไวรัสโคโรนา ที่ยังแพร่ระบาดและยังไม่มียารักษา การดูแลตัวเองด้วยการกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ รวมถึงสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน หรืออยู่ในที่แออัดด้วยผู้คน หรือใกล้ชิดผู้ป่วย นับเป็นวิธีป้องกันที่ได้ผลดีที่สุดในขณะนี้
ซึ่งสามารถหาซื้อหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือได้ที่ร้านค้าออนไลน์ชั้นนำอย่าง Lazada, Shopee, ShopAt24 และ JD Central หลายร้านมีสินค้าพร้อมส่ง สินค้าทุกชิ้นของแท้ 100% มีมาตรฐานรับรอง อย่าปล่อยให้ตัวเองต้องเจ็บป่วยเพื่อการดำเนินชีวิตที่ราบรื่นด้วยความปรารถนาดีจากทีมงาน Promotions
อ่านเพิ่มเติม :
- รวมวิธีทําเจลล้างมือแบบไม่ต้องล้างออก ป้องกันไวรัสโคโรน่า
- หน้ากากอนามัยจะขาดแคลนจริงหรือ? กักตุนสต็อก ขายเกินราคาแจ้งใครได้?
- ราคาพิเศษ ! หน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น PM 2.5 และ ไวรัสโคโรน่า ที่ Lazada
- ไม่ต้องกักตุนหน้ากาก ผ้าเช็ดหน้าแบบผ้าฝ้ายก็ใช้ป้องกันการติดเชื้อโคโรน่าได้