ราชกิจจาฯ ตั้งแล้ว กระทรวงอุดมศึกษาฯ พร้อมยุติบทบาท กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ มีผลตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค. 62
ตามที่สำนักงานราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จำนวน 9 ฉบับจากทั้งหมด 10 ฉบับ มีผลทำให้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) เปลี่ยนชื่อเป็น “สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ” หรือ (สอวช.) โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2562 เป็นต้นไป
ภาพจาก : www.moe.go.th
เมื่อวานนี้ (1 พ.ค.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาตร์ วิจัยและนวัตกรรม รวม 9 ฉบับ ประกอบด้วย
พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ 19) พ.ศ.2562
พระราชบัญญัติสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ พ.ศ.2562
พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2562
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2562
พระราชบัญญัติการอุดมศึกษา พ.ศ.2562
พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ.2562
พระราชบัญญัติการบริหารส่วนงานภายในของสถาบันอุดมศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2562
พระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษาเอกชน (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2562
พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2562
จากประกาศในราชกิจจานุเบกษาครั้งนี้มีผลทำให้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) ยุติบทบาทลงทันทีโดยนับจากวันนี้ 2 พ.ค. 62 จะมีชื่อใหม่คือ “สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ”
สำหรับอำนาจหน้าที่ของ สอวช. ตาม พ.ร.บ. มาตรา ๒๒ ระบุไว้ดังนี้
๑. รับผิดชอบงานวิชาการและงานธุรการ สนับสนุนนโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม คณะกรรมการ คณะกรรมการพิเศษเฉพาะเรื่อง และคณะอนุกรรมการ
๒. เสนอความเห็นเกี่ยวกับนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ของประเทศ
๓. เสนอความเห็นเกี่ยวกับกรอบวงเงินงบประมาณประจำปีของประเทศ รวมทั้งระบบการจัดสรรและบริหารงบประมาณแบบบูรณาการ
๔. เสนอความเห็นเกี่ยวกับการเร่งรัดและติดตามให้มีการเสนอหรือการปรับปรุงกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ ที่เกี่ยวข้องกับ (อววน.)
๕. สนับสนุนการดำเนินการ การติดตามและประเมิณผลของคณะกรรมการพิเศษเฉพาะเรื่อง
๖. ประสานงานให้มีการจัดทำ บูรณาการ และเชื่อมโยงฐานข้อมูลการอุดมศึกษาฐานข้อมูลมาตรฐานการอุดมศึกษา และฐานข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รวมทั้งสามารถเข้าถึงฐานข้อมูลดังกล่าว
๗. ประสานงานและให้ความร่วมมือกับส่วนราชการหน่วยงานอื่นของรัฐ หน่วยงานภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับด้าน อววน.
๘. จัดทำรายงานประจำปี
๙. ปฎิบัติหน้าที่อื่นตามที่ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สภานโยบาย หรือ คณะกรรมการอำนวยการ สอวช. มอบหมาย
ทั้งนี้ตาม พระราชบัญญัติสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒ มาตรา ๕ บัญญัติให้ “นายกรัฐมนตรีมีอำนาจกำกับนโยบาย ยุทธศาสตร์ แผน และการจัดสรรงบประมาณ รวมทั้งให้มีอำนาจตีความและวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาอันเกี่ยวกับการปฎิบัติการตามที่กำหนดไว้…” สอวช. ต้องทำงานร่วมกับทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่การเป็นประเทศเศรษฐกิจฐานนวัตกรรม ไทยแลนด์ 4.0 และเพื่อเตรียมให้คนไทยก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ตามนโยบายของกระทรวงต่อไป
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- วิธีอ่านฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 โฉมใหม่ ประกาศใช้ปี 2562 บอกราคาค่าไฟต่อปีละเอียดขึ้น
- 5 เทคโนโลยี การเงิน แม่ค้าออนไลน์ มือโปรเขาใช้กัน!
- จัดรถไฟฟรี รองรับประชาชน ร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 4-6 พ.ค.
- 5 เว็บไซต์ยอดฮิตสำหรับคนหางาน ปี 2019