เคสนี้เป็นไปอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ชายหนุ่มที่อเมริกา มีการรายงานว่า ยอดวงเงินในบัตรเครดิต (Credit Limit) ของเค้า ถูกปรับลดลงอย่างไม่ได้ตั้งตัวมาก่อน
ชายคนนี้ มีครอบครัวที่ใหญ่ และมีการสำรองวงเงินบัตรเครดิตเอาไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉิน เท่านั้น โดยที่ก่อนหน้านี้มีวงเงินบัตรเครดิตอยู่ที่ราวๆ 210,000 บาท แต่ถูกปรับลดลงเหลือแค่เพียง 33,000 บาท เท่านั้น
แม้ว่าชายคนดังกล่าวจะใช้บัตรเครดิตใบนั้นมาแล้วมากกว่า 6 ปี ซึ่งไม่ได้มีการผิดนับชำระหนี้ มีคะแนนเครดิตที่ดี ไม่มีประวัติด่างพร้อย แต่อย่างไรก็ดี วงเงินในบัตรเครดิตถูกหั่นลงเกินครึ่ง
อีกรายหนึ่ง มีบัตรเครดิต Mastercard ที่มีวงเงินมากถึง 500,000 บาท แต่ถูกลดวงเงินลงแบบอัติโนมัติทเหลืออยู่เพียง 51,000 บาท โดยที่ไม่เคยมีการผิดนัดชำระหนี้มาก่อนเช่นเดียวกัน โดยชายคนนี้มีฐานรายได้ที่สูง ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้แต่อย่างใด
หลังจากที่สำนักข่าวต้นเรื่อง CTVnews.ca ได้ทำการติดต่อไปยังธนาคารผู้ออกบัตรเครดิตดังกล่าว ก็พบคำตอบที่ว่า “ธนาคารมีการปรับเพิ่มหรือลดวงเงิน ตามหลักเหตุผลต่างๆ”
โดยปัจจุบัน ยังไม่มีธนาคารไหนออกมายอมรับว่า อาจเป็นเพราะสถานการณ์เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 หรือไม่? ที่เป็นต้นเหตุให้หลายธนาคารต้องมีการปรับลดวงเงินบัตรเครดิตในรูปแบบนี้
เหตุผลที่ธนาคารอาจ “ลด” หรือ “เพิ่ม” วงเงินในบัตรฯ
การเพิ่มวงเงินหรือลดวงเงินในบัตรเครดิต ในประเทศไทย ในทุกๆกรณี ทางธนาคารเจ้าของบัตรจะมีการติดต่อกับผู้ถือบัตร เพื่อทำการแจ้งการเพิ่มหรือลดวงเงิน โดยหากมีการเพิ่มวงเงิน ทางผู้ถือบัตรจะต้องมีการเตรียมเอกสารสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น สลิปเงินเดือนล่าสุดที่ได้รับการปรับเพิ่ม หรือ เอกสารอื่นๆ
เหตุการณ์อื่นๆ ที่ธนาคารอาจเพิ่มหรือลดวงเงินได้
- มาตรการจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย
- รายได้ของผู้ถือบัตร สูงขึ้น หรือ ลดลง
- เหตุผลอื่นๆ ตามการพิจารณาของธนาคาร