ร้านค้าไม่อยากไปชาร์จกับลูกค้าเยอะ เพราะทำให้ลูกค้าหาย!
ทุกวันนี้ หากคุณเดินทางไปไหนมาไหน แล้วลืมกดตังค์มาด้วย ต้องจ่ายด้วยบัตรเครดิต หรือแม้กระทั่งเดี๋ยวนี้ 7-11 ก็เก็บเงินจากบัตรเครดิตได้แล้ว ไม่ต้องเสีย ค่าธรรมเนียม แต่ต้องซื้อสินค้า 300 บาทขึ้นไป แต่หากเป็นร้านอื่น ส่วนใหญ่ก็จะขอชาร์จจากคุณทั้งนั้น .. ค่านี้แหละ เรียกว่า “MDR”
เรียกง่ายๆ คือ ค่าธรรมเนียมจากธนาคาร (หรือตัวแทนเครื่องรูดนั้นๆ) ที่เรียกเก็บกับร้านค้า ยกตัวอย่างเช่น เครื่องรูดบัตรเครดิต เวลาไป ร้านทำผม เขาจะบอกคุณก่อนเลยว่า “คุณลูกค้าคะ เราชาร์จ 3% นะคะ” จากบัตรเดบิตก็โดนเหมือนกัน ทั้งๆ ที่เป็นเงินสดนอนอยู่ในบัญชีแท้ๆ (รู้อย่างนี้เดินไปกดตังค์ดีกว่า) ที่โดนค่าธรรมเนียมก็เพราะว่า ต้องส่งเงินไปทางระบบเพื่อแปลงค่าเงินก่อน ระหว่างขั้นตอนก็เลยมีค่าธรรมเนียมเกิดขึ้น
Merchant Discount Fee (MDR) จากเครื่องรูดต่างๆ ที่เรียกเก็บกับร้านค้า มีดังนี้
ตัวแทน หรือ ประเภทเครื่องรูด |
ลักษณะการจ่ายเงิน |
ค่าธรรมเนียม |
เครื่องรูดบัตรเครดิต
|
รูดจากบัตรเครดิต Visa หรือ Master Card | |
Line Pay / Samsung Paywave |
ใช้ Paywave จากมือถือ หรือบัตร |
|
WeChat Pay , Alipay |
จ่ายผ่านการ Scan QR Code หรือ เครื่องโทรศัพท์มือถือ |
|
ส่วนใหญ่แล้วร้านค้า จะบวกค่าธรรมเนียม MDR ไว้กับราคาของสินค้าแล้ว (เหมือนกับร้านออนไลน์เดี๋ยวนี้รวมค่าส่งไว้กับค่าสินค้าแล้วเช่นกัน) ซึ่งจะทำให้ลูกค้าต้องจ่ายราคาสินค้าแพงขึ้น ปัจจุบันนี้หลายร้านจึงพยายามติดตั้งอุปกรณ์ที่รับชำระผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือ การแตะบัตรมากที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงการ “ชาร์จ” จากลูกค้า โดยค่าธรรมเนียมน้อยสุดจะเหลือเพียง 1.6-1.8% เท่านั้น
โดยเฉพาะชาวจีน ที่ไม่อยากเสียค่าธรรมเนียมให้กับ Visa และ Mastercard (และ American Express) เพื่อไม่ให้เงินหยวนไหลออกนอกประเทศ จึงมีระบบพวก Alipay, Wechat Pay ซึ่งตอนนี้พี่แจ็คหม่า แทบจะรับทรัพย์กันไปใหญ่โตเลยทีเดียว สำหรับคุณที่เปิดร้านค้า แล้วอยากติดตั้งเครื่องรับชำระเงินผ่าน Alipay, Wechat Pay ติดต่อกับเราได้ที่นี่เลยจ้า
อ่านบทความเพิ่มเติม :