เข้าใจระบบการกู้ P2P ด้วยแพลตฟอร์มของ Daingen.com
เนื่องจากปัจจุบันนี้มีผู้สนใจนำรถยนต์ที่ยังไม่ปลอดภาระกับไฟแนนซ์ไปรีไฟแนนซ์กันเยอะมาก แต่ไม่สามารถทำได้หากไม่ได้ขอกู้สินเชื่อ Top Up ใหม่กับบริษัทไฟแนนซ์เดิม อย่างเช่น ไทยพาณิชย์ ที่ลูกค้าต้องส่งค่างวดมาแล้วกว่า 12 – 48 เดือน ถึงจะทำรีไฟแนนซ์กับแบงก์เดิมได้ เพื่อกู้เงินออกมาใช้ แต่ยังมีรถขับ ปัจจุบันนี้มีสินเชื่อแบบใหม่ที่เพิ่งได้รับอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย ให้ปล่อยกู้และเรียกเก็บเงินผ่านทางออนไลน์ ในรูปแบบ Peer to Peer ได้แล้ว ยกตัวอย่างง่าย ๆ จากเว็บไซต์ ได้เงิน.com
วิธีการขอเงินกู้กับทางสินเชื่อจำนำทะเบียนรถในรูปแบบ P2P รับรถยนต์ที่ผ่านการผ่อนกับไฟแนนซ์มาแล้วกว่า 70% โดยเจ้าของรถได้รับประโยชน์ตรงที่ดอกเบี้ยเอารถไปจำนำ น้อยกว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิตแน่นอน (ปัจจุบัน ดอกเบี้ยบัตรเครดิตอยู่ที่ 18%) และไม่เช็คเครดิตบูโร โดยมีพื้นที่ให้บริการทั้ง 6 ภาค ของประเทศไทย ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก ภาคอีสาน และภาคใต้
การขอกู้ กับ ได้เงิน.com
การขอกู้กับทางสินเชื่อ P2P นี้ ใช้ระบบคอมพิวเตอร์เป็นผู้คำนวนทุกอย่าง ตั้งแต่ เงินต้น ดอกเบี้ย และการชำระสินเชื่อคืนดอกเบี้ย เพื่อความเข้าใจง่าย ๆ ต้องเข้าไปดู Model ของ ได้เงิน.com ซึ่งเป็นการปล่อยกู้จากผู้ที่ต้องการลงทุนปล่อยกู้ ก็เอาเงินสดมากองไว้ในเว็บ เลือกที่จะให้กู้รายบุคคล หรือกระจายความเสียงไปที่ผู้กู้หลาย ๆ คน
จากแต่เดิม ที่บุคคลขอกู้จะต้องเดินเข้าไปในลิสซิ่ง เพื่อขอเอารถยนต์ไปจำนำทะเบียนรถ ผู้ถือเงินหลัก ๆ ก็คือบริษัทลิสซิ่ง ซึ่งแน่นอนว่าเขาต้องขอดูประวัติการชำระหนี้ที่คุณเคยผ่านมาก่อนเพื่อประเมินว่า สุขภาพการเงินของผู้กู้นั้นยังโอเคอยู่ไหม สมควรจะปล่อยเงินให้กู้หรือเปล่า ลิสซิ่งเป็นผู้ออกเงินของตัวเองก่อน ให้กับทางผู้กู้ทั้ง 100%
แต่ในกรณีการกู้แบบ P2P บริษัทตัวกลาง จะนำเงินของนายทุนหลาย ๆ คน มากองไว้ แล้วกระจายให้ผู้ขอกู้ แต่ความพิเศษคือ ผู้ออกเงินเลือกได้ว่าจะให้ใครกู้ได้บ้าง หรือนำเงินให้กับทางตัวแทนไปปล่อยให้คนอื่นกู้ได้เลย
ผู้ขอกู้ก็จะนำรถยนต์ของตัวเองมาโพสต์เพื่อหาเงินกู้ได้ และยังคงต้องผ่อนชำระกับทางผู้ออกสินเชื่ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้มีโอกาสได้สินเชื่อมากกว่า เนื่องจากลิสซิ่งปกติอาจจะไม่ปล่อยเงินกู้จำนำทะเบียนรถให้กับรถยนต์ที่ยังไม่ปลอดภาระ
สำหรับคนไทย ความยากก็คือ การหลงเชื่อเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ อย่างการสั่งสินค้าออนไลน์ ก็ยังมีบางคนสับสนกับการอ่านรายละเอียดต่าง ๆ ได้ของผิดจนเป็นข่าว ในอนาคตหากมีเว็บไซต์ปลอม ๆ มาแกล้งทำตัวเป็น P2P อาจจะหลอกเงินเจ้าของรถ หรือ เจ้าของเงิน ให้สูญเปล่าได้ ดังนั้น P2P จึงเข้ามาเป็นทางเลือกมากกว่าการเอาสินค้าใหญ่ ๆ ในบ้านไปจำนำกับโรงรับจำนำเพื่อให้ได้เงินด่วน ดอกเบี้ยต่ำ
เท่ากับว่า P2P เป็นการยืมเงินระหว่างบุคคลในรูปแบบหนึ่ง ทีนี้ต้องไปศึกษาเงื่อนไขกันต่อว่า หลังจากลงรูปเพื่อขอกู้แล้ว สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของรถ หรือเอกสารที่นำมาใช้ค้ำประกันนั้น จะทำให้เจ้าของเงินอุ่นใจได้อย่างไรว่าทางผู้กู้จะไม่หนี ไม่เบี้ยวหนี้ และถึงแม้ว่าทางธนาคารแห่งประเทศไทยจะอนุมัติให้สินเชื่อประเภทนี้ เป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบการกู้ยืมเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยยอมรับแล้ว แต่ลูกค้ากลุ่มหนึ่งก็ยังคุ้นเคยกับการเอารถยนต์ไปเข้าสินเชื่อจำนำทะเบียนกับทางลิสซิ่งเหมือนเดิม เพราะได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ และได้รับบริการที่สอบถามรายละเอียดได้มากกว่า
โดยคาดว่าเงื่อนไขของ P2P ก็จะเข้มเหมือนการปล่อยสินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล ตามเงื่อนไขเดียวกัน ดังนี้
- ผู้ที่มีรายได้น้อยกว่า 30,000 บาท มีโอกาสได้วงเงินสินเชื่อสูงสุด เพียง 1.5 เท่า ของรายได้
- ผู้ที่มีรายได้มากกว่า 30,000 บาท ขึ้นไป มีโอกาสได้วงเงิน 1.5 – 5 เท่า ของรายได้
สรุป! สินเชื่อ P2P น่าลงทุนไหม?
หากคุณเป็นบุคคลทั่วไปที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการลงทุน หุ้น และความเสี่ยงต่าง ๆ เลย อาจจะต้องรอศึกษา P2P ไปสักพักก่อน เพราะเป็นเรื่องใหม่ที่สุด แม้ว่าทางอเมริกาเขามีปล่อยกู้แบบนี้มานานมากแล้ว แต่การที่ธนาคารแห่งประเทศไทยอนุมัติให้สินเชื่อนี้ดำเนินกิจการได้ถูกกฎหมาย ก็เท่ากับว่าอนาคต สินเชื่อ P2P มีโอกาสเติบโต และน่าจับตามองมาก หากมีเงินเก็บเป็นเงินก้อนและต้องการมาลงทุนกับ P2P ให้คนอื่นได้กู้บ้าง รอสักระยะ ให้เห็นทิศทางจากการปล่อยกู้ช่วงนี้ก่อน
หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ P2P อยู่แล้วล่ะก็ ต้องศึกษาข้อมูลให้เยอะ ๆ ก่อนเอาเอกสารรถยนต์ไปฝากค้ำไว้ในที่ต่าง ๆ นะคะ ♥
อ่านเพิ่มเติม
- เจ้าของเมืองไทยลิสซิ่ง (แคปปิตอล) และศรีสวัสดิ์พาวเวอร์ ขึ้นแท่นเศรษฐีใหม่ 2019
- วิเคราะห์ Daingern.com จาก ASN Finance สินเชื่อ P2P ดีมั้ย?
- กสิกรตอบรับมาตรการ ธปท ไม่กระทบ สินเชื่อ-บัตรเครดิต
