1 สมัครแบบไหน Work กว่ากันนะ?
ไม่ใช่เฉพาะเมืองไทย ที่มีการทำบัตรเครดิตออนไลน์ และ มีการโทรติดต่อจาก Call Center สำหรับการสมัครบัตรเครดิต เกือบทุกแบรนด์ ในเมืองนอกก็มีคำถามแบบนี้เช่นเดียวกัน คำถามเค้าก็คือ หลายๆคนสงสัยว่า การที่จะไปสมัครบัตรเครดิต ในช่องทางออนไลน์ ของธนาคารต่างๆ กับการ สมัครบัตรเครดิต โดยผ่าคนมาติดต่อ ( In Person ) ไม่ว่าจะเป็นโทรมาขายบัตรเครดิต หรือจะมานัดเจอทำบัตร อย่างไหนจะดีกว่ากัน?
หากว่าคุณเป็นผู้ใหญ่แล้วทำงานมาได้ซัก 2-3 ปี ก็มีความเป็นไปได้สูงที่คุณจะมีบัตรเครดิต ติดตัวไว้ 1 ใบ สำหรับยามฉุกเฉิน และคุณก็อาจจะอยากสมัครบัตรเครดิตเพิ่ม เพราะมันมีสิ่งเย้ายวนใจ เช่น สมัครบัตรใหม่ ได้ของแถม ได้เงินคืน หรือสามารถนำไปลดราคาจองโรงแรม หรือ ซื้อของออนไลน์ได้ลดเพิ่มได้ ดังนั้นคุณก็อาจจะอยากจะทำเพิ่ม แต่สิ่งที่คุณจะเลือกทำ ต้องดีที่สุด เรามาดูคำตอบกันว่า การทำบัตรเครดิตออนไลน์ หรือให้คนมาติดต่ออันไหนจะดีกว่ากัน หรือ จริงๆแล้วมันควรเป็นประเด็นหรือเปล่า?
2 ต่างกันมั้ย? Online VS In-Person?
ธนาคารและเจ้าของบัตรเครดิตส่วนใหญ่ ไม่ได้แคร์ ว่าคุณจะสมัครบัตรเครดิตทางไหนเลย ไม่ว่าจะเป็นทางออนไลน์ หรือ ทาง ให้เซลส์เข้าไปติดต่อ เพราะยังไงๆ ก็ต้องมีการกรอกข้อมูลส่วนตัว และข้อมูลทางการเงินอยู่ดี ซึ่งเมื่อกรอกแล้ว ก่อนที่จะอนุมัติ เค้าก็ต้องมีการตรวจสอบสถานภาพทางการเงิน และขอเอกสารวันยันค่ำ ซึ่งก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกัน และหากจะให้เห็นภาพชัดๆ ข้อมูลทุกอย่างจะถูกเก็บไว้ใน ระบบของธนาคารหรือเจ้าของบัตรนั้นๆ เช่น เมื่อคุณจะไปลงทะเบียนขอสมัครบัตรเครดิต ออนไลน์ คุณก็ต้องกรอกข้อมูล และหากเปรียบเทียบกับที่มีเจ้าหน้าที่โทรไป เค้าก็ต้องกรอกแบบฟอร์มให้คุณอยู่ดี ดังนั้นจึงไม่มีความแตกต่างในการสมัครออนไลน์ และ ที่มีเจ้าหน้าที่โทรไปหา
3 โปรโมชั่นแตกต่างกันมั้ย?
ต้องบอกว่า อันนี้อยู่ที่ policy ของแต่ละสถาบันการเงิน บางสถาบัน ไม่มีบุคคลากรเพียงพอที่จะให้โทรไปหาลูกค้า เค้าก็เน้นการสมัครออนไลน์เป็นหลัก ตัวอย่างเช่น การสมัครบัตรเครดิต Citibank ออนไลน์ เค้าจะมี ของแถม แจก points เป็นประจำ ซึ่งก็ต้องสมัครออนไลน์ เท่านั้น บางบริษัท ไม่มีให้เลยทั้ง Online/offline อันนี้ก็ต้องมานั่งพิจารณาดูกันว่า แบบไหน ที่เหมาะที่สมควรมากกว่ากัน
4 สมัครบัตรเครดิตออนไลน์ มีเจ้าไหนบ้าง?
แนะนำให้ลองกรอกข้อมูลทุกธนาคารที่มี เพราะบางธนาคารหรือบริษัทบัตรเครดิตบางเจ้าอาจจะไม่อนุมัติให้
Citibank สมัครออนไลน์ รับของแถมเยอะ จริงๆ >> https://www.citibank.co.th/th/apply/citi-m/index.html
KTC Online สมัครออนไลน์ เลือกบัตรได้ สบายๆ >> https://www.ktc.co.th/iwantktc/
สมัครบัตรเครดิต UOB ออนไลน์ พร้อมรับสิทธิพิเศษ >> https://forms.uobthailand.com/appforms/contactus/onlineapp-creditcard.page?
บัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ ออนไลน์ได้แล้วนะ >> https://www.bangkokbank.com/th-TH/Personal/Cards/Credit-Cards/Bangkok-Bank-Visa-Platinum-Credit-Card
5 5 ข้อควรรู้ก่อนสมัครบัตรเครดิต ทั้งออนไลน์ และ ผ่านเจ้าหน้าที่
- อย่าสมัครทั้งๆ ที่ไม่รู้อะไรเลย – หลายคนอาจจะเคยได้รับบัตร หรือใบปลิว โปรโมชั่นบัตรเครดิต ที่อาจจะติดมาตามจดหมายต่างๆ หรือมีการบอกว่า สมัครตอนนี้จะได้โปรโมชั่น ต่างๆ นาๆ หรือมีวันหมดเขต หมดอายุด้วย อย่าพึ่งเชื่อเลยทีเดียว เพราะคุณอาจจะได้โปรโมชั่นที่ดีกว่า ทางที่ดี เข้า Google search หา ข้อมูล และ เปรียบเทียบบัตรดูก่อนที่จะทำการสมัคร เพราะคุณอาจจะได้บัตรที่ดีกว่า หรือโปรโมชั่นบัตรที่ดีกว่าได้
- รู้ไว้ซะ บัตรบางใบ มีค่าธรรมเนียม รายปี – แน่นอนอยู่แล้ว ถ้าเราสมัครไปและไม่ใช้ บัตรเลย จะมีค่าธรรมเนียม ธนาคารและบัตรเครดิต ส่วนใหญ่ จะกำหนดค่าธรรมเนียมไว้ประมาณ 500 – 2000 บาท ต่อปีเลยทีเดียว หากว่าไม่มีการใช้บัตรขั้นต่ำประมาณ 50,000 บาท ต่อปี คุณอาจโดนเก็บค่าธรรมเนียมได้ แม้ว่าจะสามารถ waive ได้ก็ตาม หากคุณ ไม่ได้ติดตาม ค่าธรรมเนียม อาจกวนใจคุณทุกปี และต้องมานั่งอารมณ์เสียในภายหลัง ดังนั้น ก่อนจะสมัครบัตรอะไรก็ตาม ให้ถาม ก่อนเลย ว่ามีค่าธรรมเนียมบัตรมั้ย? Waive ได้หรือไม่ อย่างไร?
- เมื่อได้บัตรมาแล้ว ให้เชื่อมการจ่ายเงินผ่านบัตรทันที – การเชื่อมการจ่ายบัตรนี้ หมายถึง เชื่อมการจ่านค่าบัตรเครดิต กับ บิลค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเน็ต ค่ามือถือ ค่าบริการรายเดือน จิปาถะ ต่างๆ เพราะ มันจะทำให้คุณได้ point ในเดือนแรกๆ เลย และทำให้ประหยัดเงินและเวลามากด้วย เพราะ การหักผ่านบัตรเครดิต ทำให้คุณไม่ต้องไปเสียเวลา นั่งตามจ่ายค่าบริการต่างๆ และบางรายการ หากคุณเดินไปจ่ายนที่ 7-11 มีค่าธรรมเนียม อีก ถ้าตัดผ่านบัตรส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ แถมได้ point เพิ่มอีกต่างหาก
- สมัครบัตรให้ถูกประเภทการใช้งาน – บัตรเครดิต เดี๋ยวนี้มีเป็นสิบๆ รุ่น ตัวอย่างเช่น บัตรเครดิต KTC มีมากกว่า 20 รุ่น ขึ้นไป บัตร Citibank มีประมาณ 9 รุ่นหลัก นี่ยังไม่นับรวมพวก Ready Credit หรือบัตรกดเงินสด อีกนะ สาเหตุ ที่อยากให้สมัครบัตร ให้ตรงความต้องการก็คือ บัตรบางใบ เน้นสำหรับช้อปออนไลน์ ได้ point ได้ ส่วนลดเพิ่ม บัตรบางใบ สำหรับการท่องเที่ยวจองโรงแรม ซึ่งแตกต่างกันมาก ในการเก็บคะแนน และมีความคุ้มค่าที่แตกต่างกันออกไป บางคนเดินทางต่างประเทศบ่อย บัตรบางตัว จะมีเงินคืนให้ อันนี้ แล้วแต่คนเลยละกัน
- ไม่ควรใช้จ่ายเกินที่ตัวเองจะจ่ายได้รายเดือน – การรูดบัตรเครดิต อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่มาก และเป็นปัญหาทางการเงินซะด้วย หากคุณใช้และไม่คำนวณให้ดีซะก่ออน บางคนเงินเดือน 30,000 แต่ใช้บัตรไป 2 หมื่นบาท ต่อเดือน ที่เหลือมาผ่อนเอา โดนดอกเบี้ยเข้าไปจังๆ ทุกๆ เดือน กลายเป็นหนี้พอกพูน เราแนะนำว่า หากคุณ มีเงินเดือนหลัก หมื่นบาท ให้ใช้บัตรในหลักพัน เท่านั้น หากมีเงินเดือนเรือนแสน ควรใช้บัตรเครดิต ในระดับ 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 30% ของเงินเดือนรายเดือน เอาเป็นว่า สามารถจ่ายได้ทั้งหมดทุกยอดละกัน จะได้ไม่เดือนร้อนกันในภายหลัง