รวมสูตรขนมเจ อิ่มท้อง อิ่มใจ ได้อิ่มบุญ ต้อนรับเทศกาลกินเจ

แจกสูตรขนมเจอิ่มอร่อยตลอด 9 วันแบบไม่ผิดข้อห้าม

นับถอยหลังอีกไม่กี่วันเท่านั้น เทศกาลถือศีลของผู้ใจบุญ โดยเฉพาะคนไทยเชื้อสายจีน กำลังแวะเวียนกลับมาอีกครั้ง กับเทศกาลถือศีลกินเจ ประจำปี 2565 โดยจะเริ่มต้นเทศกาล ในวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง วันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ของทุกปี ตามปฏิทินจันทรคติของจีน หรือตรงกับ วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน 2565 ต่อเนื่องจนถึง วันอังคารที่ 4 ตุลาคม 2565 ตามปฏิทินสากล กับการทำบุญใหญ่ละเว้นการฆ่าสัตว์ ถือศีล 5 ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรม พร้อมละเว้นการรับประทานอาหาร ที่มีส่วนประกอบมาจากเนื้อสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เล็กหรือสัตว์ใหญ่ ดังนั้นอาหารเจ จะไม่สามารถมีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์ นมวัว ไข่ เนย รวมถึงเครื่องปรุงจากเนื้อสัตว์ได้เลย ซึ่งผู้ถือศีลกินเจจำเป็นต้องละเว้นเป็นเวลา 9 วัน 9 คืน และเพื่อให้มื้ออิ่มบุญนี้ครบถ้วนมากยิ่งขึ้น นอกจากการพิถีพิถันในด้านอาหารคาวแล้ว อาหารหวานก็จำเป็นต้องพิถีพิถันเช่นเดียวกัน วันนี้ Promotions มีสูตรเด็ดขนมเจ ขนมหวานเจ ที่มีส่วนประกอบจากธัญพืชมาแชร์ การันตีสูตรความอร่อย อิ่มท้องพร้อมอิ่มบุญ

กินเจเพื่อสุขภาพ! เตรียมตัวล้างท้องก่อนถึงเทศกาลถือศีลกินเจ

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินทันที อาจทำให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าที่คิด ดังนั้นเป็นประจำทุกปี ก่อนเริ่มเทศกาลถือศีลกินเจ จึงต้องมีกำหนดวันล้างท้อง หรือวิธีล้างท้องเพื่อเตรียมร่างกาย โดยเฉพาะระบบย่อยอาหารให้พร้อม ก่อนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินจากรับประทานเนื้อสัตว์ทุกมื้อ มาเป็นการกินเฉพาะผักผลไม้ รวมถึงธัญพืชต่าง ๆ เป็นเวลา 9 วัน

ขนมหวานธัญพืช
ขนมหวานเจเพื่อสุขภาพ

สำหรับขั้นตอนการล้างท้องนั้น ควรทำก่อนเริ่มกินเจประมาณ 1-2 วัน อาจเริ่มล้างท้องในช่วงวันที่ 22-23 กันยายน 2565 โดยปรับเปลี่ยนอาหารมื้อหลักจากเนื้อสัตว์ใหญ่ มาเป็นเนื้อสัตว์ที่ย่อยง่าย อาทิ ไก่และปลา จากนั้นค่อยปรับมาทานผักผลไม้ เต้าหู้ นมและธัญพืช จะช่วยเตรียมกระเพาะได้ดีมากกว่าการปรับวิธีการกินแบบปุบปับ ระบบย่อยอาหารจะทำงานได้ดีขึ้น พร้อมดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่

เคล็ดลับอีกอย่าง เพื่อให้การกินเจนั้นได้สุขภาพมากกว่าที่เคย หลังจากผ่านพ้นการถือศีลกินเจวันสุดท้ายไปแล้ว วันต่อมาแนะนำให้งดอาหารจากเนื้อสัตว์ใหญ่ก่อน ค่อย ๆ ไต่ระดับการทานเนื้อสัตว์เล็ก ควบคู่กับผักผลไม้เป็นเวลา 1-2 วัน เพื่อให้ร่างกายคุ้นชินเสียก่อน จากนั้นจึงค่อยทานอาหารตามปกติ

งดของต้องห้าม 4 อย่าง! อาหารเจต้องปรุงด้วยผู้ถือศีลกินเจเท่านั้น

  • ผักที่มีกลิ่นฉุน อาทิ หัวหอม, ต้นหอม, ใบหอม, หลักเกียว, กุ้ยช่าย และกระเทียม
  • เนื้อสัตว์ ไข่ และผลิตภัณฑ์ที่มีที่มา หรือส่วนประกอบจากสัตว์ อาทิ นมวัว นมแพะ และเนย
  • อาหารรสจัด ควรเลี่ยงอาหารรสเผ็ด เค็ม หวาน หรือเปรี้ยว ที่มีความจัดจ้านมากเกินไป
  • ผงปรุงรสและซอสปรุงรส อาทิ น้ำปลา และซอสหอยนางรม ที่มีส่วนผสมจากเนื้อสัตว์
  • อาหารเจทั้งคาวและหวาน จะต้องปรุงจากผู้ที่ถือศีลกินเจด้วยเท่านั้น

9 สูตรขนมเจ อร่อยไม่ซ้ำวัน ได้ประโยชน์ครบถ้วนเต็มอิ่ม

1. ข้าวโอ๊ตโยเกิร์ตนมอัลมอนด์ผลไม้รวม

ขนมเจข้าวโอ๊ตโยเกิร์ตนมอัลมอนด์ผลไม้รวม
ข้าวโอ๊ตโยเกิร์ตนมอัลมอนด์ผลไม้รวม

ส่วนผสม

  • ข้าวโอ๊ต 1-2 ถ้วย
  • โยเกิร์ตสูตรเจ 1 ถ้วย
  • นมอัลมอนด์ หรือ นมพิตาชิโอ 1 ถ้วย
  • ผลไม้รวม 4 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ

 

วิธีทำ

  • นำข้าวโอ๊ต โยเกิร์ตสูตรเจ นมอัลมอนด์ หรือ นมพิตาชิโอ และน้ำผึ้ง ใส่รวมกันในชามใหญ่
  • จากนั้นนำส่วนผสมต่าง ๆ มาคลุกเคล้าให้เข้ากันจนกลายเป็นเนื้อเดียว
  • แช่ผลไม้ที่เตรียมไว้ในน้ำเกลือ 15 นาที แล้วนำมาล้างน้ำสะอาด หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ นำไปแช่ตู้เย็น 10-15 นาที
  • จัดเตรียมข้าวโอ๊ตที่ทำเสร็จแล้วตักใส่ถ้วย พร้อมโปะหน้าด้วยผลไม้แช่แข็ง

2. เค้กกล้วยหอมสูตรเจ

เค้กกล้วยหอมสูตรเจ
เค้กกล้วยหอมสูตรเจ

ส่วนผสม

  • แป้งเค้ก 200 กรัม
  • ผงฟู 1 ช้อนชา
  • เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 100 กรัม
  • นมถั่วเหลืองสูตรเจ หรือ นมอัลมอนด์ 150 มิลลิลิตร
  • กล้วยหอมสุกบดละเอียด 300 กรัม
  • อัลมอนด์หั่นสไลด์ 1 ช้อนชา

วิธีทำ

  • นำกล้วยบดละเอียด และนมถั่วเหลืองสูตรเจ หรือ นมอัลมอนด์ พร้อมกับน้ำตาลทรายมาผสมกัน
  • แป้งเค้ก เกลือ ผงฟู และเบคกิ้งโซดา มาผสมพร้อมตีให้เข้ากันจนกลายเป็นเนื้อเดียว
  • นำแป้งกับกล้วยบดที่ทำเสร็จแล้วมาคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน
  • ตักเนื้อแป้งเค้กกล้วยหอมใส่พิมพ์ นำเข้าเต้าอบหรือหม้อทอดไร้น้ำมัน
  • ใช้ไฟในการอบ 180 องศาเซลเซียส 20 นาที
  • โรยหน้าด้วยอัลมอนด์หั่นสไลด์บนเค้กกล้วยหอม เป็นอันพร้อมเสิร์ฟ

3. มันฝรั่งสดทอดเกลือ

มันฝรั่งสดทอดเกลือสูตรเจ
มันฝรั่งสดทอดเกลือ

ส่วนผสม

  • มันฝรั่ง 3-4 หัว
  • เกลือ 1-2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  • ล้างทำความสะอาดมันฝรั่งให้สะอาด จากนั้นนำมาปอกเปลือก
  • หั่นมันฝรั่งที่ปอกเปลือกแล้วเป็นชิ้นพอดีคำ รูปทรงหั่นตามชอบ
  • หากชอบสัมผัสนุ่มให้หั่นชิ้นหนา หากชอบสัมผัสกรอบให้หั่นชิ้นบาง หรือสไลด์บาง
  • นำมันฝรั่งที่หั่นเสร็จแล้วไปแช่น้ำเกลือ 10 นาที แล้วนำมาล้างน้ำสะอาด จากนั้นใช้ผ้าขาวซับให้แห้ง
  • ตั้งกระทะเทน้ำมันให้ท่วม รอน้ำมันเดือดจึงค่อยนำมันฝรั่งลงไปทอดให้เหลืองกรอบ
  • จากนั้นตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน แล้วโรยด้วยเกลือ 1-2 หยิบมือตามความชอบ
  • หรือสามารถนำเข้าหม้ออบลมร้อน และหม้อทอดไร้น้ำมันได้ ใช้ไฟ 120 องศาเซลเซียส 30 นาที
  • เมื่อสุกเหลืองกรอบน่ารับประทานให้จัดใส่จาน พร้อมโรยเกลือตามใจชอบ

4. เปาะเปี๊ยะทอดไส้รวมธัญพืช

เปาะเปี๊ยะทอดไส้รวมธัญพืชสูตรเจ
เปาะเปี๊ยะทอดไส้รวมธัญพืช

ส่วนผสม

  • แผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะสำเร็จรูป 10 แผ่น
  • ธัญพืช (ลูกเดือย, ถั่วแดง) 4 ช้อนโต๊ะ
  • แคร์รอตสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
  • เห็ดหอมสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
  • วุ่นเส้นหั่นชิ้นเล็ก 3 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาวสูตรเจ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  • แช่ผักและธัญพืชที่เตรียมไว้ในน้ำเกลือ 15 นาที แล้วนำมาล้างน้ำสะอาด
  • ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อย จากนั้นนำธัญพืช แคร์รอต เห็ดหอม และวุ้นเส้นหั่นลงไปผัด
  • ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทราย สำหรับสูตรเจงดใส่ผงปรุงรสูตรเนื้อสัตว์
  • ผัดจนได้ที่ให้วุ่นเส้นเป็นสีใส และผักอ่อนนุ่มเคี้ยวง่ายขึ้น นำมาพักไว้บนจาน
  • นำไส้ธัญพืชผักรวมที่ได้มาห่อกับแผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะสำเร็จรูป
  • จากนั้นนำเปาะเปี๊ยะที่ห่อไส้เสร็จแล้ว ลงไปทอดในน้ำมันเดือด ตั้งไฟกลางให้ทอดแล้วสีเหลืองสวย
  • เมื่อทอดจนเหลืองกรอบได้ที่ นำไปจัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟทานคู่กับน้ำจิ้มบ๊วย

5. โมจิญี่ปุ่นนุ่มหนึบไส้ถั่ว

โมจิญี่ปุ่นนุ่มหนึบไส้ถั่วสูตรเจ
โมจิญี่ปุ่นนุ่มหนึบไส้ถั่ว

ส่วนผสม

  • นมข้นหวานสูตรเจ 165 กรัม
  • นมถั่วเหลือง หรือ นมอัลมอนด์ 25 มิลลิลิตร
  • เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 25-30 กรัม
  • แป้งสาลีชนิดเบา (แป้งบัวแดง) 200 กรัม
  • ผงฟู 1/2 ช้อนชา
  • ถั่วเหลืองบดละเอียด 30 กรัม
  • เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  • ทำแป้งโมจิโดยนำนมข้นหวานสูตรเจ  นมถั่วเหลือง หรือ นมอัลมอนด์ เบกกิ้งโซดา น้ำสะอาดผสมให้เข้ากัน
  • ผสมเนื้อแป้งโมจิที่ทำไว้กับผงฟู และแป้งวาลี จากนั้นคนให้เข้ากันจนกลายเป็นเนื้อเนียน ขั้นตอนนี้ใส่สีผสมอาหารเพิ่มได้
  • นำแป้งโมจิที่ทำเสร็จแล้วมานวดเป็นก้อน และแบ่งเป็นก้อนเล็กเตรียมไว้สำหรับใส่ไส้
  • ทำไส้ถั่วเหลืองโดยนำถั่วเหลืองบดละเอียด น้ำตาลทราย และเกลือป่นมากวนให้งวดบนกระทะตั้งไฟอ่อน
  • พักไส้ถั่วทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้นนำมาห่อไส้กับแป้งโมจิที่ทำไว้
  • นำไปอบบนเตาอบด้วยอุณหภูมิ 170-180 องศาเซลเซียส 15-20 นาที เป็นอันเสร็จสิ้น

6. ไอศกรีมโฮมเมดผลไม้รวม

ไอศกรีมโฮมเมดผลไม้รวมสูตรเจ
ไอศกรีมโฮมเมดผลไม้รวม

ส่วนผสม

  • ผลไม้รวม 500 กรัม
  • น้ำตาลทราย 175 กรัม
  • นมถั่วเหลือง หรือ นมอัลมอนด์ 50 มิลลิลิตร
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  • นำผลไม้รวมมาแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกสำหรับการนำไปปั่น และส่วนที่สองสำหรับนำไปแช่เย็นเป็นท็อปปิ้ง
  • แช่ผลไม้ที่เตรียมไว้ในน้ำเกลือ 15 นาที แล้วนำมาล้างน้ำสะอาด
  • นำผลไม้รวมที่แบ่งไว้มาผสมกับนมถั่วเหลือง หรือ นมอัลมอนด์ น้ำตาลทราย และน้ำตาล
  • จากนั้นนำเข้าเครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียดจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน หรือปั่นหยาบเพื่อให้ได้สัมผัสเนื้อผลไม้
  • นำมาเทใส่ภาชนะทนความเย็น แล้วนำไปแช่แข็งที่ช่องฟรีซ
  • แบ่งตักใส่ถ้วยเล็ก แล้วนำผลไม้แช่แข็งที่แบ่งไว้มาโรยหน้าเป็นท็อปปิ้ง

7. วุ้นผลไม้รวมสูตรเจ

วุ้นผลไม้รวมสูตรเจ
วุ้นผลไม้รวมสูตรเจ

ส่วนผสม

  • ผลไม้รวม 500 กรัม
  • ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร
  • น้ำตาลทราย 100 กรัม

วิธีทำ

  • แช่ผลไม้ในน้ำเกลือ 10 นาที แล้วนำมาล้างน้ำสะอาด จึงค่อยนำมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
  • การทำวุ้นเริ่มจากการนำผงวุ้น น้ำเปล่า และน้ำตาลทรายมาคนให้เข้ากันบนหม้อตั้งไฟกลาง
  • คนวุ้นจนเดือด จากนั้นพักทิ้งไว้สักพักบนเตา 1-2 นาที แล้วไปเตรียมพินสำหรับใส่ผลไม้
  • นำผลไม้ใส่พินหรือถ้วยทนความเย็น จากนั้นเทวุ้นที่ได้ลงบนพินผลไม้ จากนั้นนำไปแช่เย็น 30 นาที – 1 ชั่วโมง
  • แกะวุ้นออกจากพินหรือถ้วย จัดแต่งใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

8. “ถังหูลู่” ผลไม้เคลือบน้ำตาล

ผลไม้เคลือบน้ำตาล
ผลไม้เคลือบน้ำตาล

ส่วนผสม

  • น้ำตาลทราย 300 กรัม
  • น้ำเปล่า 50 กรัม
  • น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
  • ผลไม้รวม 100 กรัม
  • ไม้จิ้มฟัน 10-20 ไม้

วิธีทำ

  • ล้างผลไม้ที่เตรียมไว้ให้สะอาด จากนั้นนำไปแช่น้ำเกลือ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่าอีกครั้ง
  • หั่นผลไม้เป็นชิ้นพอดีคำ พร้อมนำไม้จิ้มฟันที่เตรียมไว้มาเสียบตามใจชอบ
  • น้ำคาลเคลือบทำโดยการนำน้ำตาลทราย น้ำเปล่า และน้ำผึ้ง มาผสมกันกันบนเตาตั้งไฟอ่อน
  • ห้ามคนส่วนผสมน้ำตาลเคลือบ เพราะอาจทำให้น้ำตาลเคลือบมีฟอง
  • ให้ใช้วิธีการจับหม้อโคลงเคลงหรือแกว่งเบา ๆ ไปมา จนส่วนผสมเข้าที่
  • นำผลไม้เสียบไม้ที่เตรียมไว้ มาจุ่มกับน้ำตาลเคลือบในหม้อ 2-3 ครั้ง
  • จากนั้นนำผลไม้ไปพักบนตะแกรง หรือกระดาษไขป้องกันการติด ทิ้งไว้ให้เย็นพร้อมรับประทาน

9. คัพเค้กดาร์กช็อกโกแลต

คัพเค้กดาร์กช็อกโกแลตสูตรเจ
คัพเค้กดาร์กช็อกโกแลต

ส่วนผสม

  • แป้งอเนกประสงค์ 2 ถ้วย
  • นมถั่วเหลือง หรือ นมอัลมอนด์ 1/4 ถ้วย
  • ผงดาร์กโกโก้ หรือ ผงดาร์กช็อกโกแลต 1/4 ถ้วย
  • เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 1 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
  • เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • น้ำร้อน 1 ถ้วย

วิธีทำ

  • นำแป้งอเนกประสงค์ที่ร่อนแล้ว มาผสมกับผงดาร์กโกโก้ หรือ ผงดาร์กช็อกโกแลต นมถั่วเหลือง หรือ นมอัลมอนด์ น้ำตาลทราย เบกกิ้งโซดา และเกลือจากนั้นคนส่วนผสมให้เข้ากัน
  • เมื่อแป้งและส่วนประกอบอื่นเข้ากันแล้ว ให้เติมน้ำร้อนลงไปผสม จากนั้นรีบคนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียว เพื่อไม่ให้แป้งจับตัวเป็นก้อน
  • นำแป้งเค้กที่ได้เทใส่พิมพ์ตามชอบ นำไปอบในเตาอบ หรือหม้อทอดไร้น้ำมันด้วยไฟ 180 องศาเซลเซียส 20 นาที
  • เช็กความสุกของแป้งด้วยไม้จิ้มฟัน หากจิ้มลงไปแล้วไม่มีของเหลวติดมา แสดงว่าคัพเค้กสุกพร้อมรับประทาน

กินเจปีนี้ขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ แม้ละเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์ นอกจากอาหารคาวจะต้องครบถ้วนแล้ว อาหารหวาน หรือของหวานก็ต้องไม่ขาด สูตรขนมเจที่ได้นำมาฝากในวันนี้ การันตีว่าเหมาะสำหรับผู้ที่ถือศีลกินเจ วัตถุดิบหาซื้อตามง่ายถูกต้องตามหลัก สารอาหารครบถ้วน มีให้เลือกทั้งของหวานร้อน ของหวานเย็น เข้ากับสภาพอากาศของประเทศไทย และที่สำคัญไม่ว่าใครก็ทำตามได้ มาทำให้การกินเจปีนี้ตลอด 9 วัน 9 คืนของคุณ เป็นเรื่องราวดี ๆ กับของอร่อยที่รังสรรค์เองง่าย ๆ ได้ที่บ้าน

Read More>>>

Previous articleผมหงอกก่อนวัยทำยังไง? ถอนดีหรือไม่? หรือใช้แชมพูปิดผมขาว
Next articleยาปลูกผม LYO ดีไหม? 5 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ เซรั่ม ปลูกผม กรรชัย