แบรนด์ดังและมหาเศรษฐีบริจาคเงินเพื่อการศึกษาและต่อสู้กับ Corona Virus
เปิดปีใหม่ 2563 มาก็มีแต่เรื่องหนัก ๆ โดยเฉพาะเรื่องไวรัสโคโรน่า ที่เป็นปัญหามาตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2563 แต่กลายมาเป็นประเด็นร้อนเมื่อเกิดการระบาดหนักและยังควบคุมไม่ได้ การเกิดการระบาดครั้งนี้โชคดีของประชากรโลกที่รัฐบาลจีนได้มีการจัดการอย่างรวดเร็ว และมีมาตรการที่ชัดเจน ดั่งการสร้างโรงพยาบาล Houshenshan ที่สร้างเสร็จด้วยเวลาอันรวดเร็วจากเงินบริจาคของมหาเศรษฐีทั่วโลก
โรงพยาบาล Houshenshan สร้างเสร็จภายใน 10 วัน
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมประเทศจีนถึงมีกำแพงเมืองจีนยาวเป็นพันเมตรและกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก เป็นที่ตกใจของคนที่ได้ยินข่าวว่าจีนเริ่มขุดที่เพื่อลงเสาเข็มสร้างโรงพยาบาล 1,000 เตียง ให้แล้วเสร็จ ใน 10 วัน เพื่อที่จะได้รองรับผู้ป่วยจากเชื้อปอดอักเสบโคโรน่า แต่จะตกใจไปยิ่งกว่านั้น หากรู้ว่าก่อนหน้านี้จีนเคยรับมือกับการระบาดของโรคที่ต้องสร้างโรงพยาบาลที่รองรับผู้ป่วยได้ใกล้เคียงกัน และสร้างเสร็จภายใน 6 – 7 วันเท่านั้น ครั้งนี้จึงได้รวมตัวทีมวิศวกรและนักออกแบบที่เคยทำงานในครั้งก่อน มาถอดแบบและสร้างด้วยขั้นตอนเดียวกัน โดยใช้พื้นที่แนวราบ และก่อปูนด้วยซีเมนต์ฉาบสำเร็จ โดยใช้แบบพิมพ์เขียวจากส่วนโครงสร้างเดิม และบางส่วนออกแบบขึ้นมาใหม่ไปพร้อม ๆ กับการก่อสร้าง
โรงพยาบาล Houshenshan บนพื้นที่ 25,000 ตร.ม.
7 มหาเศรษฐีและแบรนด์ดังที่ร่วมบริจาคสู้เชื้อปอดอักเสบ โคโรน่า
ในข่าวที่มาของการบริจาคนี้ไม่ได้บริจาคเพื่อสร้าง โรงพยาบาล Houshenshan เพียงวัตถุประสงค์เดียว แต่รวมถึงการค้นคว้าและวิจัยที่แพทย์หรือนักวิจัยต้องใช้ความรู้นี้เพื่อการพัฒนายา หรือการรักษาที่ต่อสู้กับโคโรน่าไวรัสได้ รวมกว่า 21,033 ล้านบาทแล้ว โดยมีรายนามผู้บริจาค ดังนี้
1) บริษัท KERING ผู้เป็นเจ้าของแบรนด์ GUCCI, YSL, Balenciaga และอื่น ๆ
กลุ่มบริษัท KERING ผู้เป็นเจ้าของสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมไฮเอนด์ ทั่วโลก โดยบริจาคทั้งสิ้น 34 ล้านบาท
2) บริษัท LVMH ผู้เป็นเจ้าของแบรนด์ LV
กลุ่มบริษัท LVMH ผู้เป็นเจ้าของแบรนด์หลุยส์ วิตรองค์ และสินค้าแฟชั่นไฮเอนด์อื่น ๆ ได้บริจาคเงินรวม 72 ล้านบาท เพื่อต่อสู้กับโคโรน่าไวรัรส
3) เจ้าสัวธานินทร์ เจียรวนนท์ ผู้เป็นเจ้าของแบรนด์ CP
คุณธานินทร์ เจียรวนนท์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ CP ได้บริจาคเงิน 222 ล้านบาท และช่วยเหลือเรื่องการฆ่าเชื้อสินค้าอุปโภคบริโภคแก่ชาวจีน
4) Jack Ma ผู้เป็นเจ้าของแบรนด์ Alibaba Group
นักธุรกิจจีนชื่อดัง Jack Ma ก็ได้ร่วมบริจาคเงินราว 630 ล้านบาท เพื่อการคิดค้นยาและการรักษาผู้ป่วยด้วยไวรัสอู่ฮั่น ถือว่าช่วยเพื่อนร่วมชาติ นอกจากจะเป็นนักบริหารที่เก่งแล้ว ยังใจบุญอีกด้วย
5) บิล เกตต์ ผู้เป็นเจ้าของแบรนด์ Microsoft
ผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟต์ซึ่งถือเป็นบริษัทใหญ่ด้านอุตสหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ก็ได้ร่วมบริจาคเงินกว่า 3,120 ล้านบาท แก่สภากาชาดจีน เพื่อช่วยเหลือประชาชนจีนที่ได้รับผลกระทบจากการติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่น
6) กลุ่มบริษัท Tencent, Huawei
ในนามของกลุ่มบริษัท Huawei, Tencent, Baidu, ByteDance ได้บริจาคเงินสดคิดเป็นเงินบาท ราว 3,568 ล้านบาท เพื่อใช้ในงานวิจัย และเพื่อซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับสร้างโรงพยาบาล Houshenshan
7) กลุ่มบริษัท Alibaba Group
นอกจากในนามส่วนตัวของแจ็คหม่าแล้ว ยังมีเงินบริจาคส่วนหนึ่งจาก Alibaba Group เพื่อจัดตั้งกองทุนและซื้ออุปกรณ์การแพทย์แก่จีน เพื่อรักษาประชาชนที่ติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่น
ด้วยองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้เปิดรับขอเงินบริจาคเพื่อป้องกันการแพร่กระจายไวรัสโคโรน่า จึงทำให้สามารถระงับและยับยั้งการแพร่กระจายของโรคนี้ได้ ปัจจุบันนี้มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตนำโรคซาร์ส ไปแล้ว และส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว ดังนั้นหากใครเดินทางพบเจอผู้คนบ่อย ๆ ก็ควรพกหน้ากากอนามัย และหากมีอาการติดเชื้อ ไข้ขึ้นสูง ควรเข้ารับการรรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
อ่านเพิ่มเติม
- ไข้หวัดนก H5N1 สาเหตุเกิดจากอะไร ? มีวัคซีนป้องกันไหม ?
- เช็กลิสต์ ! 12 เที่ยวบินการบินไทยที่ถูกยกเลิกไปจีน ไม่มีกำหนด
- แชร์ข่าวปลอมไวรัสโคโรนามีโทษอะไรไหม ?
- รวมต้นไม้กรองฝุ่น สำหรับโต๊ะทำงาน หรือปลูกไว้ในบ้าน
- รู้หรือไม่ เชื้อไวรัสโคโรนามีระยะฟักตัวกี่วัน มีความรุนแรงแค่ไหน ?
อ่านบทความ “ไวรัสโคโรน่า” ได้ที่นี่